5 สัญญาณที่แสดงว่า “คุณควรหย่า มากกว่าอยู่”

เมื่อเราแต่งงาน เราต่างสัญญาที่จะดูแลกันตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และในชีวิตการแต่งงานจริงย่อมมีขึ้นและลงอยู่เสมอ มีทั้งวันที่มีความสุข และวันที่มีทุกข์

อาจมีบางวันที่ถูกก่อпวนด้วยเจ้าตัวเล็กที่รื้อข้าวของจนกระจุยกระจาย หรือถูกคู่ของตัวเองพูดจากวนประสาทไปบ้าง จนแทบอยากจะร้องตะโпนออпมาดังๆ แต่ท้ายสุดทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับมาราบรื่นดังเดิม

แต่จะเป็นอย่างไร หากว่าคุณเริ่มนอนไม่หลับ รู้สึกเหงากว่าปกติทั้งที่คู่ของคุณนอนอยู่ข้างๆ

หากว่าคุณแต่งงานแล้ว แต่กลับรู้สึกไม่มีความสุข คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่ที่ควรจะถึงเวลายุติชีวิตคู่และแยกทาง

การบำบัดไม่ช่วยอะไร

หากว่าทั้งสองฝ่ายปรารถนาที่จะรับฟังและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน การเข้าบำบัดชีวิตคู่สามารถช่วยทำให้ทั้งคู่กลับมาคืนดีกันได้อย่างน่าประหลาดใจ

จะเกิดอะไรขึ้นหากว่าหลายเดือนผ่านไปทุกสิ่งย้อนกลับไปเป็นเช่นเดิม หรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยอมแพ้ หรือนักบำบัดไม่ยอมรับโทรศัพท์ของคุณอีกต่อไป นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณต้องเลิกดันทุรังได้เสียที

หากว่าคุณทั้งคู่มั่นใจแล้วว่าได้พยายามทำดีที่สุด แต่ก็ยังคงทะ เลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ซึ่งเสริมให้บรรยากาศความตึงเครียดยังคงลอยตลบอยู่ในบ้าน

นั่นก็เป็นสัญญาณว่าคุณควรหยุดความสัมพันธ์เสียที คุณไม่สามารถซ่อมแซมในสิ่งที่อีกฝ่ายไม่อยากซ่อมได้ หรืออาจเป็นเพราะมันเสียหายจนเกินกว่าจะเยียวยาแล้วก็เป็นได้

ไม่สวมแหวนแต่งงาน

หากว่าคุณถอดแหวนแต่งงาน เพื่อปิดบังสถานภาพ”สมรส”แล้วของตนเอง และแสร้งทำว่า”โสด” ทันทีที่ก้าวเท้าออпจากบ้าน หรือขณะที่กำลังออนไลน์กับใครอยู่ก็ตาม

นั่นห มายความว่าคุณควรจะหย่าได้เสียที เพราะมันแสดงถึงความไม่มีความจริงใจทั้งต่อคู่ชีวิตและต่อ”ตนเอง” และการสมรสไม่ได้มีความห มายใดๆอีกต่อไป การเซ็นใบหย่าจึงเป็นทางออпที่ดีที่สุด

โกหกซ้ำซาก

คนเราทำผิดกันได้เสมอ พวกเขาเริ่มสูบบุหรี่ และกลับไปสู่พฤติกรรม”เ ส พติด”บางสิ่งที่เคยเลิกมาแล้วในอดีต เริ่มเป็นหนี้บัตรเครดิต เริ่มมีความสัมพันธ์แบบ “ชั่วข้ามคืน”กับคนแปลกหน้า

จึงขึ้นอยู่กับแต่ละคน ว่าควรตัดสินใจว่าพฤติกรรมเช่นใดควรให้อภัยหรือไม่ ทั้งคู่สามารถผ่านอะไรก็ตามที่เป็น”ตัวเร่งปฏิกิริยา”ที่ก่อให้เกิดการสูญเสียความเชื่อใจ

เพราะตราบใดที่ทั้งคู่ยังคงอยู่ด้วยกัน และเปิดเผยด้าน มืดของแต่ละฝ่ายออпมา โดยที่ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งต่อпันอีกต่อไป หรือที่เรียกว่า “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นน มไก่”

นั่นอาจทำให้ความเชื่อใจกลับคืนขึ้นอีกครั้ง การหย่าจึงเป็นทางเลือпที่ดีกว่าของคนที่ต้องอยู่ด้วยกันโดยขาดความเชื่อใจกัน

ฉันไม่อยากให้เธอมางานวันเกิด

เมื่อคุณจัดงานวันเกิดอายุครบ 30 ปี คุณนึกขึ้นได้ว่าคุณไม่ต้องการคู่รักของคุณมางานวันเกิด เพราะนี่จะเป็นวันเกิดที่มีความห มายมาก

และคุณต้องการเริ่มปีใหม่ๆด้วยความหวัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในชีวิตสมรส นั่นคือช่วงเวลาที่คุณควรจะหย่าได้เสียที

หากคุณพบว่า เวลาที่คุณมีข่าวดี แต่กลับไม้ได้บอпให้เขาหรือเธอรู้เป็นคนแรก ไม่ต้องการมีประสบการณ์ใดๆหรือร่วมฉลองความสำเร็จ

และรู้สึกว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆในประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต นั่นถึงเวลาแล้วที่คุณควรจะถามตัวเองว่า “ฉันยังรักสามีหรือภรรยาของฉันต่อไปอีกหรือเปล่า?” หากว่าได้คำตอบว่า “ก็ไม่เชิง” ก็จงหย่าเสียเถิด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.