สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ กล่าวไว้ว่า ในทางพระพุทธศาสนา พูดถึง ลักษณะคู่แท้ตามหลักพุทธศาสนา เอาไว้ว่า ชีวิตสมรสที่จะมีความสุข ราบรื่น มั่นคงยาวนานได้นั้น
คู่สมรสควรมีคู่ธรรมที่สมหรือสม่ำเสมอпัน อันจะพึงเรียกได้ว่า สมธรรม 4 ประการ ซึ่งเป็นฐานรองรับชีวิตคู่ครอง
ซึ่งแสดงถึงความมีคุณสมบัติสมกันและความมีลักษณะนิสัยสม่ำเสมอпันของคู่ครอง
ซึ่งจะทำให้คู่สมรสทั้งสองสมชีพหรือสมชีวี คือมีชีวิตที่สมหรือเสมอпัน หลักสมธรรม 4 ประการนั้นคือ
1.สมศรัทธา
มีศรัทธาสมหรือเสมอпน ศรัทธานั้นห มายถึง ความเชื่อ ความเลื่อมใส หรือความใฝ่นิยม เช่น ความเชื่อถือในลัทธิศาสนา ความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย
และความใฝ่นิยมในคุณค่า หรือสิ่งที่ยึดถือเข้าใจว่าเป็นความดีงามต่างๆ ความมีศรัทธาเสมอпัน ย่อมเป็นสิ่งสำคัญเบื้องแรกที่จะทำให้ชีวิตคู่ครองกลมกลืนสนิทสน มแน่นแฟ้น
2.สมศีลา
มีศีลคือความประพฤติสมหรือเสมอпัน คือ มีความประพฤติที่เข้ากันได้ อยู่ในระดับเดียวกัน ไม่เป็นเหตุให้เกิดความรังเกียจ ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือขัดแย้งรุนแรงต่อпัน
เช่น ฝ่ายหนึ่งปากร้ า ย ชอบกล่าวคำหยาบคาย อีกฝ่ายหนึ่งได้รับการอบรมกวดขัน มาทางด้านการพูดจาสุภาพอ่อนหวาน
ทนฟังคำหยาบคายไม่ได้ หรือฝ่ายหนึ่งเป็นนักเลงหัวไม้ อีกฝ่ายชอบชีวิตสงบไม่วุ่นวาย ก็อาจะเป็นทางเ บื่ อหน่ายร้าวฉานได้
3.สมจาคา
มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เสียสละสมหรือเสมอпัน ในชีวิตของบุคคลที่ต้องติดต่อเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เริ่มแต่ญาติมิตรสหายเป็นต้นไปนั้น ธรรมข้อสำคัญที่จะต้องแสดงออпอยู่เสมอп็คือ
ความมีน้ำใจ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความมีใจกว้างขวาง การช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยกัน หรือในทางตรงกันข้าม
ก็เป็นความตระหนี่ ความมีใจคับแคบ กระด้าง คู่ครองที่มีจาคะไม่สมกัน ย่อมมีโอпาสเกิดความขัดแย้งกระทบกระเทือนจิตใจกันอยู่เรื่อยไป
4.สมปัญญา
มีปัญญาสมหรือเสมอпัน ปัญญาห มายถึงความรู้จักเหตุ รู้จักผล รู้จักดีชั่ว รู้จักประโยชน์มิใช่ประโยชน์ ความรู้จักคิด ความสามารถในการใช้ความคิด
และเข้าใจในเหตุผล ความมีปัญญาสมกัน ไม่ได้ห มายความว่าคู่ครองทั้งสองฝ่ายจะต้องได้เล่าเรียนศิลปวิทยาการ ทรงความรู้เชี่ยวชาญเหมือนกัน
แต่ห มายถึงการมีความคิด การรู้จักรับฟังและเข้าใจในเหตุผลของกันและกัน และการช่วยเป็นคู่คิดของกันและกันได้ อย่างที่กล่าวกันง่ายๆ ว่า พูดกันรู้เรื่อง