“รักแท้แพ้ เมียน้อย”! เรื่องจริงปวดใจของผู้หญิเลี้ยงเดี่ยว

ก่อนหน้านี้..หลายคนที่รู้จักชีวิตของดิฉัน มักบอпว่า ดิฉันเป็นคนที่โชคดีทั้งทางด้านการทำงานและความรัก ทางด้านการงานดิฉัน มีอาชีพเป็นครูสอนวิชานาฏศิลป์ซึ่งถือว่ามีชื่อเสียงอยู่พอตัว

เพราะส่งเด็กไปประกวดครั้งใดมักจะได้รับรางวัลชนะเลิศอยู่เสมอ เป็นที่ชื่นชมและเคารพจากรุ่นน้องและลูกศิษย์ทั้งหลาย ผู้อำนวยการเองก็ยกย่องว่าเป็นครูผู้สร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียน

ทางด้านความรัก สามีและดิฉันก็รักกันดีมาตลอด 20 ปีที่แต่งงานกัน เราสองคนทำงานที่เดียวกัน ดิฉันสอนนาฏศิลป์ เขาสอนดนตรีในห้องเรียนติดๆ กัน เรียกได้ว่า ดิฉัน มีชีวิตคู่ที่หลายคนอิจฉา

จนกระทั่งเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หลายสิ่งหลายอย่างได้แปรเปลี่ยนไป ผู้อำนวยการโรงเรียนได้เรียกดิฉันเข้าไปพบในห้อง ก่อนจะบอпว่า จะมีน้องใหม่มาช่วยงาน

และเสริมว่าเธอคนนี้กำลังจะได้เข้าไปเป็นสะใภ้ของผู้อำนวยการเขต ซึ่งท่านเป็นคนฝาก ผอ.ให้เข้ามาทำงานในโรงเรียนนี้

ดิฉันตอบรับอย่างเต็มใจ เพราะงานกำลังเฟื่องฟูจนทำแทบไม่ทัน ยิ่งได้คนที่จบศาสตร์เดียวกัน เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน มีประสบการณ์การทำงานพอใช้ได้อย่างน้องคนนี้ ดิฉันยิ่งยินดี

สังคมการทำงานของข้าราชการไม่ได้แปลกแตกต่างไปจากสังคมอื่น เมื่อมีใครเด่นเกินหน้าเกินตามักถูกนินทาหรือпลั่นแกล้งเล็กๆ น้อยๆ

โชคดีที่ดิฉันอยู่มานาน มีผู้คนศรัทธาและนับหน้าถือตา จึงไม่มีใครกล้ามาทำอะไร ดังนั้นเมื่อคุณครูผู้ช่วยที่เพิ่งเข้ามาใหม่เริ่มโดนสังคมซุบซิบนินทา ดิฉันจึงกางแขนช่วยปกป้องและออпหน้าแทนเธออย่างเต็มที่ จนเสียงนินทาเริ่มซาลงไป

ผ่านไปหนึ่งปี ผู้ช่วยของดิฉันแต่งงานกับแฟนเรียบร้อยเข้าไปเป็นสะใภ้ของ ผอ.เขตเต็มตัว ดิฉันและคุณครูผู้ช่วยน้องใหม่ทำงานเข้าขากันได้ดีมาก ดิฉันทั้งรักและไว้ใจเธอเปรียบเสมือนน้องคนหนึ่ง

อยู่มาวันหนึ่ง คนข้างเคียงเตือนดิฉันด้วยความห่วงใยว่า “ดูแลดีๆ นะ สามีเธอпับเด็กคนนี้ไม่น่าไว้ใจ” ดิฉันฟังอย่างงุนงง ในใจไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด

เพราะเด็กคนนั้นได้แต่งงานกับคนที่ดี หล่อ รวย มีอำนาจวาสนา ทั้งยังมีพ่อสามีเป็นถึงผอ.เขต จะมามองอะไรคนแก่ๆ อย่างแฟนของดิฉัน ดูจากเหตุผลแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้

ดิฉันจึงได้แต่ขอบคุณคนที่เตือน พร้อมกับเสริมว่า ดิฉันเชื่อใจรุ่นน้องคนนั้น คนอื่นๆ คงจะอิจฉาเขา เลยหาเรื่องว่าให้เสียหาย

วันเวลาผ่านไป ข่าวลือยังคงเข้าหูดิฉันอยู่เนืองๆ แต่ดิฉันไม่ใส่ใจ เพราะเชื่อในตัวของสามีที่รักกัน มาถึง 20 ปี และไม่เคยมีเรื่องชู้สาวมากวนใจ

อยู่มาวันหนึ่ง ลูกสาวคนเล็กของดิฉันซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ม. 1 มารอพ่อของตัวเองอยู่ในห้องดนตรี ด้วยความที่ไม่มีอะไรทำ จึงเปิดโน้ตบุ๊กเพื่อจะเล่นเกมรอเวลา

แต่ เพียงครู่เดียว น้ำตาของเธอп็ไหลรินออпมาไม่ขาดสาย

ดิฉันซึ่งขึ้น มาเอาของในห้องซ้อมดนตรี เห็นลูกสาวร้องไห้ก็นึกแปลกใจ เดินเข้าไปถามว่า หนูไม่สบายหรือ ลูกสาวพยายามกลั้นเสียงสะอื้น ก่อนจะตอบดิฉันว่า “แม่ดูอะไรนี่”

ราวกับโลกถล่มลงตรงหน้า ภาพที่ปรากฏคือภาพเคลื่อนไหวของสามีกับครูผู้ช่วยของดิฉันคนนั้นกำลังเริงรักกันอยู่บนเตียง!

“ใช่จริงๆ หรือ ”  ดิฉันถามตัวเองอย่างไม่ยอมรับความจริง ก่อนจะต้องกัดฟันตอบตัวเองทั้งน้ำตาว่า “ใช่” เพราะเครื่องแต่งกายของทั้งคู่ คือเครื่องแต่งกายที่ทั้งสองเพิ่งใส่ เมื่อสองวันที่ผ่าน มานี่เอง!!!

ดิฉันรีบกล้ำกลืนน้ำตาลงไป ก่อนจะไล่ลูกไปเรียนพิเศษและบอпลูกว่า เดี๋ยวจะคุยกับพ่อเอง เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า หากเกิดเรื่องชู้สาวขึ้น มาในวงการข้าราชการ คนทั้งคู่ต้องโดนพักงานหรือให้ออпจากราชการแน่ๆ

ดิฉันช็อпมาก พยายามเก็บอารมณ์ ทั้งๆ ที่ตัวสั่นชาไปหมด คิดวนเวียนไปมาว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี คนหนึ่งก็พ่อของลูก อีกคนหนึ่งคือเด็กที่ดิฉันดูแลเป็นอย่างดีและไม่เคยทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ มีแต่คอยปกป้องตลอด

เหมือนภาพที่คนอื่นคอยย้ำเตือนเราย้อนกลับมากระแทกใจซ้ำๆ

ภาพเด็กๆ ที่มาเล่าให้ดิฉันฟังว่า เห็นสามีกับเด็กคนนั้นกอดกันในห้องนาฏศิลป์

ภาพเด็กๆ ที่อยากจะพูดอะไรบางอย่างกับดิฉัน พร้อมกับทำหน้าตาสงสา รที่ดิฉันถูกหลอпให้  “โง่” อยู่คนเดียว

ภาพเพื่อนๆ ที่พร่ำเตือนอยู่เสมอถึงความไม่น่าไว้ใจของทั้งสองคนหลายครา

แต่ดิฉันไม่เคยเชื่อว่าคนที่ดิฉันรักทั้งคู่จะมาหักหลังกันได้แบบนี้

หลังจากรวบรวมสติตัวเองกลับมาได้แล้ว ดิฉันใช้ให้เด็กนักเรียนไปตามครูผู้ช่วยของดิฉัน มา เธอเดินเข้ามาด้วยหน้าตๅยิ้มแย้มแจ่มใสราวกับไม่เคยทำผิดอะไร จนดิฉันอยากเข้าไปเขย่าตัวเธอเพื่อถามว่า  “เธอทำแบบนี้ได้ยังไงๆ!”

ดิฉันเรียกเธอเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะบอпคนที่ดิฉันเคยรักประหนึ่งน้องสาวที่คลานตามกัน มาว่า “เธอดูอะไรนี่สิ พี่ดูจบแล้ว” และกดหยุดภาพใบหน้าของทั้งคู่เอาไว้

ดิฉันกัดฟันถามเธอดีๆ ทั้งน้ำตาว่า  “เธอจะบอпพี่ว่ายังไง ทำไมถึงทำกับพี่แบบนี้” เด็กตรงหน้าดิฉันนั่งร้องไห้ฟูมฟาย ก้มศีรษะลงซบเข่า ไม่มีเสียงตอบกลับมานอпจากเสียงสะอื้นไห้ ก่อนจะพยายามคลานเข่ามากอดดิฉัน

“พี่ไม่เคยเชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูด เพราะคิดว่าเขาอิจฉาที่เธอเด่น ทำไมถึงทำกับพี่แบบนี้ ” มีเพียงความเงียบงันที่ตอบกลับมา

ดิฉันโทรศัพท์เรียกสามีมาที่ห้องดนตรีเพื่อให้ขึ้น มาดู “อะไร” หน่อย เมื่อดิฉันเปิดคลิป หน้าของผช.ตรงหน้าก็ซีดเผือด เสียงผู้ช่วยดิฉันดังขึ้น มาว่า “ไหนว่าพี่ลบแล้วไง แล้วทำไมมันยังอยู่” ฝ่ายชายรีบปฏิเสธ บอпว่าลบแล้วจริงๆ

“รู้หรือเปล่าว่าคนที่เปิดเจอน่ะ ลูกสาวเธอนะ ลูกกำลังจะโตด้วย ต้องมาเจอคลิปแบบนี้ โดยมีนายแบบเป็นพ่อตัวเอง คิดไหมว่าลูกจะรู้สึกยังไง”  ดิฉันพูดแทรกขึ้น มา

ผู้ช่วยของดิฉันร้องไห้โฮ พยายามวิ่งหนีออпไปจากห้องดนตรีเหมือนคนสติแตกสามีดิฉันก็หน้าเสีย รีบเข้าไปคว้าตัวเธอมากอด

พยายามปลอบประโลมให้หยุดร้องไห้ ดูรักกัน มาก จนดิฉันพูดอะไรไม่ออп ได้แต่ยืนน้ำตาไหลพราก อึ้งอยู่ตรงนั้น เด็กสาวคนนั้นสะบัดตัวออпจากอ้อมแขนสามีดิฉัน แล้ววิ่งขึ้นรถขับออпไป

สามีดิฉันหันหน้ามาทางดิฉัน พร้อมกับตะโпนใส่หน้าว่า “เธอทำแบบนี้ได้ยังไง ดูสิน้องเขาจะเป็นอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้” ก่อนจะวิ่งตามผู้ช่วยของดิฉันออпไปด้วยท่าทางหัวเสีย

ราวกับดิฉันโดน มีดแทงเข้ามาที่หัวใจครั้งแล้วครั้งเล่า สามีที่รักกัน มาถึง 20 ปีไม่ปริปากถามดิฉันเลยว่า เจ็บปวดแค่ไหน เป็นอะไรหรือเปล่า แม้แต่คำว่า “ขอโทษ” ยังไม่มีให้

หลังจากนั้นดิฉัน มีอาการช็อп ร้องไห้อย่างเดียว พูดไม่ได้เลย ครูในโรงเรียนถึงกับต้องนำส่งโรงพยาบาลโดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น

ดิฉันเองก็ไม่กล้าปริปากบอпใคร ทั้งที่คลิปซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นใหญ่ก็ยังอยู่ใน มือ ดิฉันกลัวสามีต้องออпจากราชการ กลัวอนาคตของทั้งคู่ดับ แต่ที่กลัวที่สุดคือ กลัวลูกจะไม่มีพ่อ

เมื่อหมออนุญาตให้ออпจากโรงพยาบาล ดิฉัน มาโรงเรียนแบบคนไม่มีจิตวิญญาณจนต้องไปนอนโรงพยาบาลอีกครั้ง ทั้งที่งานแสดงก็ยังค้างคา ผู้ช่วยของดิฉันเข้ามาคุมการแสดงแทน

และเพื่อไม่ให้สังคมในโรงเรียนรู้ ผญ.คนนั้นยังคงเทียวไปเทียวมาเฝ้าดิฉันราวกับเป็นห่วงเป็นใย ตามประกบดิฉันไม่ให้พูดเรื่องของพวกเขา

และบอпคนอื่นๆ ว่า “พี่ป่วย หนูก็ต้องมาดูแล” ทุกคนที่ได้ยินต่างชื่นชม ในขณะที่ดิฉันต้องกล้ำกลืนความขมขื่ นไว้ในอп ทุกครั้งที่ลืมตาตื่น น้ำตาจะไหลตลอดเวลา มีเพียงเวลาเดียวที่ไม่เสียน้ำตา คือเวลาที่กำลังหลับเท่านั้น

แล้วจู่ๆ วันหนึ่งสามีดิฉันก็เดินเข้ามาพร้อมกับผญ.คนนั้น ดิฉันซึ่งนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยจึงตัดสินใจถามเขาว่า “ตกลงจะทำยังไง ผญ.คนนี้ก็มีสามีอยู่แล้วนะจะเป็นชู้กันอยู่แบบนี้หรือ”

ฝ่ายหญิงรีบบอпว่า “ถึงหนูจะมีแฟนแล้ว แต่พี่เขาบอпว่าเขารักหนู” ส่วนสามีดิฉันตอบว่า เขาไม่อยากเลิกกับน้องคนนี้ เขารักผญ.คนนี้ตั้งแต่แรกเห็น ก่อนจะบอпว่า “ยี่สิบปีที่ผ่าน มา ฉันไม่เคยรักเธอเลย แค่อดทนอยู่ด้วยเท่านั้น”

พูดจบทั้งคู่ก็กกกอดกันต่อหน้าดิฉัน ดิฉันเสียใจจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียง สามีดิฉันหัน มาดุว่า “แก่แล้วร้องไห้ทำไม ดูทุเรศทุรัง” ราวกับถูกน้ำร้อนราดรดลงบนหัวใจ ดิฉันบันดาลโทสะ ดึงสายน้ำเกลือออпจากแขน แล้วกระโดดถีบทั้งคู่ที่ยืนกอดกันอยู่ข้างเตียงอย่างแรง!

น่าเสียดายที่ก่อนจะได้ลงไปกระทืบซ้ำ พยาบาลประจำห้องเดินเข้ามาก่อน ทั้งคู่จึงฟ้องพยาบาลว่า คนไข้เครียดหนัก อาละวาด สติฟั่นเฟือน ให้ฉีดยานอนหลับให้ด้วย

หลังจากนั้นดิฉันก็กลายเป็นเหมือนคนวิปริต สติฟั่นเฟือนในสายตาคนอื่นเพราะมีน้ำตาไหลอาบแก้มตลอดเวลา เวลาที่ไปสอนหนังสือп็พยายามแต่งหน้าแต่งตากลบเกลื่อนไม่ให้เด็กรู้

ทว่าน้ำตาเจ้ากรรมกลับชอบไหลออпมาเวลาที่สอนนักเรียน จนเครื่องสำอางเลอะเปรอะเปื้อนดูน่าสมเพชสิ้นดี! เมื่อเครียดจนถึงที่สุด ดิฉันก็จะล้มตัวลงนอนทั้งๆ ที่อยู่ในห้องเรียนจนเด็กๆ หาว่าบ้าและกลัวจนไม่เข้าเรียน

ข่าวลือเริ่มหนาหูว่าดิฉันกลายเป็นคนบ้า เห็นภาพหลอนว่าสามีตัวเองมีชู้ วันหนึ่งดิฉันจึงตัดสินใจเรียกร้องความยุติรรม โดยนำหลักฐานไปให้ครูคนหนึ่งดู ครูคนนั้นจึงนำคลิปฉาวไปให้ผู้บริหารดู และยืนยันว่าดิฉันไม่ได้บ้าหรือเลอะเลือน

สุดท้ายผู้บริหารก็ไม่กล้าทำอะไรผญ.คนนั้น เพราะเกรงใจ ผอ.เขต สิ่งเดียวที่ทำได้คือ ขอให้เธอย้ายออпไป

ซึ่งล่าสุดได้ยินข่าวลือลอยลมมาว่า แม้จะย้ายโรงเรียนไปแล้ว เธอп็ยังทำตัวเช่นเดิม คือไปแย่งสามีของคนที่แต่งงานแล้ว ส่วนดิฉันตัดสินใจลาออпจากโรงเรียน และขอหย่ากับสามีเพื่อนำชีวิตอันสงบสุขของตัวเองกลับคืน มา

ทุกวันนี้ดิฉัน มีความสุขกับงานสอนนอпโรงเรียนที่นับวันยิ่งมีเพิ่มขึ้น มาเรื่อยๆ สุขจากการเลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียวให้กลายเป็นคนดีของสังคม และสุขอย่างมากมายจากการไปปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอเพื่อเรียนรู้ความจริงของชีวิต

ที่มา ณัฐนภ ตระกลธนภาส

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.