หากการเดินทางของความรักมีเพียง 2 ทางให้เลือกเดิน คือเดินไปให้ถึงปลายทาง และเดินถอยหลังกลับไปยังจุดเริ่มต้น
เราจะเลือกเดินทางไหน เป็นใครก็ต้องอยากไปให้ถึงปลายทางแห่งความสุข แต่เราต้องยอมรับความจริงของชีวิตว่า
สุดท้ายแล้ว ตรงปลายทางย่อมมีคนที่พบกับความสุขสมหวัง และมีคนที่เศร้าเสียใจกับความรักเป็นธรรมดา
มีคนกล่าวว่า ความรักไม่ใช่เกม ความรักคือความรัก คือเรื่องบริสุทธิ์ของคนสองคน
แต่ความเป็นจริงแล้ว เมื่อใดที่เรามีความรัก เราก็เหมือนหลงเข้าไปเล่นเกมโดยไม่รู้ตัว
เพราะนี่คือกลไกทางธรรมชาติที่ใครก็ปฎิเสธไม่ได้ หากพิสูจน์ใจเขาด้วยบททดสอบอะไรบางอย่าง
นั่นคือเกมหนึ่งที่เรากำลังเป็นฝ่ายเดินเกม และเป็นฝ่ายนำแต้ม แต่หากวันใดวันหนึ่งเกิดแพ้ใจเขาขึ้นมา
เราไม่รู้หรอกว่ากำลังจะเสียแต้มให้เขา อาจจะเสียแต้มเพราะความดี ความเอาใจใส่ และความรักที่เขาหยิบยื่นให้
อย่างไรเสีย ความรักก็คือเกมอยู่วันยังค่ำ วันใดวันหนึ่งหากเขาเกิดอยากล้มกระดานเกมความรักขึ้นมา
และเดินจากไปโดยไม่บอกไม่กล่าว ถามว่าเสียใจไหม แน่นอน..เป็นใครก็ต้องเสียใจ เสียเวลา และเสียความรู้สึก จนเกิดคำถามมากมายตามมา
“ทำไมเขาถึงต้องทำกับเราอย่างนี้”
“ทำไมเขาถึงต้องเดินจากไปทั้ง ๆ ที่เรารักเขามาก”
“ทำไมเขาถึงรักตัวเองได้มากมายขนาดนี้”
และคำถามเหล่านี้ก็มีคำตอบรอเราอยู่แล้ว “เพราะเกมความรักของเราเริ่มไม่สนุกสำหรับเขายังไงล่ะ”
เราอาจเป็นฝ่ายเดินนำเกมมากเกินไป จนทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นฝ่ายตามอยู่ตลอเวลา
เขาอาจเบื่อหน่ายความรักที่กลายเป็นสิ่งเดิม ๆ จนอยากโละทิ้ง และอยากเข้าไปเล่นเกมใหม่ ๆ กับใครคนใหม่
เราต้องยอมรับความจริงว่า มนุษย์ย่อมมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ มีทั้งเบื่อ มีทั้งอยาก
และถ้าหากเรายอมรับความจริงข้อนี้ได้ เราก็จะรู้ว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่แท้จริงของเราเลย แม้แต่นิดเดียว
เขาเป็นเพียงมนุษย์เดินดินธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่ได้มีความมั่นคงทางจิตใจมากพอ
เขาเป็นเพียงเด็กที่อยากเล่นเกมใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา และเขาก็เป็นเพียงคนที่เราควรปล่อยให้ไปเล่นเกมใหม่ได้เลยทันที ที่เขาอยากจะไป
คนทุกคนมักทำอะไรอย่างมีเหตุผลและไม่มีเหตุผล หากเขาเดินจากไปอย่างไม่มีเหตุผล
ก็ไม่ได้หมายความว่าเราน่าเบื่อเกินไปสำหรับเขา หรือเขาเลวเกินไปสำหรับเรา
คนสองคนไม่ได้เกิดมาเผื่อเป็นคู่กันต่างหาก ต่อให้ทุ่มเทความรักให้เขามากมายเพียงใด คนสองคนก็ไม่ใช่คู่กันอยู่ดี
และหากเขาเดินจากไปอย่างมีเหตุผล นั่นอาจเป็นเพราะเขาต้องทำเพื่ออะไรสักอย่าง
ไม่ใช่อะไรเพื่อเรา ก็คงเป็นเพื่อตัวเขา เหตุผลมันมีได้หลายร้อยพันประการ แต่ “เขาไม่รัก” ก็น่าจะเป็นผลเหตุเดียว
ที่ครอบคลุมความหมายทั้งหมดของคำว่า “เดินจากไป” และคนที่ต้องมีความหนักแน่น ในการยอมรับเหตุผลนั้นมากที่สุดก็คือตัวเราเอง
อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนต้นว่า คนเรามีทางเลือกให้เลือกเดินอยู่ 2 ทาง
ถ้าไม่เดินไปให้ถึงปลายทาง ก็ต้องเดินหันกลับไปยังจุดเริ่มต้น หากรักครั้งนี้เป็นเขาที่เลือกหันหลังเดินจากไป
และเราก็มี 2 ทางให้เลือกเดินเช่นเดียวกันคือ กันหลังกลับไปหาเขา แม้ว่าเราทำได้ แต่เราจะเจ็บปวดมากที่สุด ทุกข์ทรมานใจมากที่สุด
หรืออีกทางหนึ่งก็คือ เดินหน้าต่อไปเพียงลำพัง แม้จะเจ็บปวด แต่เชื่อแน่ว่าความเจ็บปวดนั้น
จะฝังกายฝังใจไว้ที่เราเพียงไม่นาน เพราะความเข้มแข็งจะค่อย ๆ สะสมตัว เพื่อเป็นภูมิคุ้มกัน
แล้วในที่สุดเราก็จะเอาชนะความเจ็บปวด และเอาชนะใจตัวเองได้
จำไว้เลยว่า เมื่อเขามีสิทธิ์เลือกทางเดินของชีวิต เราก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกทางเดินของชีวิตได้เช่นเดียวกัน
ในเมื่อเขาไม่ยอมรับทางเดินที่จะใช้ร่วมกันกับเรา ก็ปล่อยให้เขาไปตามทางของเขาเถอะ
ปล่อยคนไม่รักดีให้เดินจากไป ดีกว่าปล่อยให้ใจเราเดินหลงทาง และหาทางออกไม่เจอ