“หนูกับแฟนกลับมาคบกันรอบสองค่ะ รอบแรกเลิกกันเพราะปัญหาครอบครัวฝ่ายหนู เรากลับมาคบกันอีก รอบนี้ทำไมไม่เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนขอคบหนูเอง
แต่เขาเปลี่ยนไปมาก ต้องการมีเวลาส่วนตัว เล่นเกมส์มากเกินไป หนูก็โวย งี่เง่า ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของผญ.ที่แฟนไม่สนใจ รูปคู่เขาก็ไม่เคยอัพ
ไม่เคยแท็กหา เขาไม่ใส่ใจหนูเลย หนูวิ่งตามจนบางครั้งกลับมาคิดว่าวิ่งตามยังไงเขาก็ไม่สนใจ มันท้อ มันเหนื่อย แต่เวลาถามว่ารักเราไหม เขาก็บอกว่ารัก เขาไม่อยากเสียเราไป แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม หนูควรทำยังไงดีคะ”
กลับมาคบคนเก่า ได้แก้ปัญหาที่เคยทำให้เราเลิกกันหรือยังคะ ตอนนั้นปัญหาเกิดจากบ้านเรา แล้วหนนี้กลับมา ปัญหาของบ้านเรา หมดไปหรือยัง ต้องบอกตัวเองเลยค่ะว่า “ความเหมือนเดิม” ไม่มีจริง ทุกสิ่งเคลื่อนไป แม้แต่ตัวเรา
ครั้งหนึ่งเราเคยเลิกกัน ต่างคนต่างไป อยู่โดยที่ไม่มีกันก็ไม่ตๅย เลยทำให้ต่างฝ่ายต่างเรียนรู้ว่า ถ้าทุกอย่างจะเกิดอีกครั้ง ก็คงไม่พังเท่าไหร่
การกลับมาครั้งใหม่ เลยปล่อยให้เป็นตัวของตัวเองกันได้เต็มที่ ส่วนหนึ่งก็ดีค่ะ ไม่ต้องแอ๊บ ทำทุกอย่างที่สบายตัว จะได้ถามหัวใจกันอีกทีว่าคุ้มค่าที่จะเดินหน้าต่อไหม
ไม่ว่าจะรักกับใคร เราควรมีอยู่ด้วยกัน 3 โลก โลกส่วนตัว โลกส่วนเรา และโลกส่วนรวม ประสานกันอย่างสมดุล ไม่ควรให้โลกใบไหนใหญ่เกินไปจนเบียดโลกอื่นๆ
โลกส่วนตัวใหญ่โตจนโลกส่วนเราหายใจไม่ออก เล่นเกมส์ มีเวลาอยู่หน้าจอ จนไม่รอเจอหน้าเรา อยู่กับเขาเหงากว่าโสด เข้าใจว่าน้องโกรธแต่ต้องมีวิธีในการคุยกับเขา
อย่าคิดว่า “การงี่เง่า” เป็นเรื่องธรรมดา แรกๆ อาจน่ารัก หนักๆ เข้าจะน่ารำคาญ ยิ่งถ้าการกระทำของเขาในวันนี้ ดูดีๆ เหมือนไม่ค่อยมีใจ
เรื่องงี่เง่าอาจทำให้เราเลิกกันได้ไม่ยาก ถ้ายังอยากเดินหน้าต่อต้องใช้สติเยอะๆ การโวยวายวีนเหวี่ยง ไม่ได้ทำให้เราน่ารักมากขึ้น ลองนิ่ง
ถ้าเกมส์คือความสุขของเขา ลองไปมีความสุขในทางของเราบ้าง ช้อปปิ้ง ออกกำลัง ไม่ต้องมารอนับเวลาว่า เมื่อไหร่จะเลิกเล่นเกมส์ เผื่อความคิดถึงจะได้ทำงานบ้าง ดีกว่าวิ่งไล่ตามจนหมดความมั่นใจ
รักกันแม้ไม่ต้องประกาศบอกใคร แต่อย่าถึงขั้นซ่อนกันไว้จนไร้ตัวตน การไม่มีเราในโซเชียลฯของเขา น้องว่าอะไรเป็นเหตุผลของเขา
ลองเลียบเคียงถามกัน ดูซิว่า เขาตอบว่าอะไร ทุกครั้งที่ถาม อย่าให้เป็นการตำหนิ แค่ขอความเห็น เผื่อเธอไม่กล้าลง จะได้ถามว่าแล้วเราลงรูปคู่ได้ไหม
ไม่สะดวกประการใด ลองฟังซิเขาจะตอบว่ายังไง แค่ฟังคำตอบของเขา เราก็พอจะรู้แล้ว คำว่า “รัก” ที่เขาพูดมา มันออกเสียงง่ายจนเขาสามารถพูดไปโดยไม่รู้สึกอะไรหรือเปล่า
แฟนเก่ากลับมา ต้องดูว่า เขากลับมาเพราะมีใจ หรือแค่ไม่มีที่ไปเฉยๆ ขอโอกาสอยากคบกันใหม่ แต่ไม่ดูแลใจเท่าที่ควรเป็น จะได้เห็นว่า
เขาเอาโอกาสที่เราให้ไปใช้อย่างคุ้มค่าแค่ไหน ต่อให้พูดเสมอว่า ถ้ารักกันจริง ใครจะทิ้งให้เราเป็นแฟนเก่า แต่ก็มีแฟนเก่าหลายคู่
เรียนรู้เวลาที่ต้องเลิกกัน และพบว่าการกลับมาอยู่ด้วยกัน มัน มีความสุขกว่าเป็นไหนๆ เคยเข้าไปอ่า นในเว็บไซต์พันทิป ก็มีไม่น้อยนะคะ ที่กลับมาคบคนเก่า แล้วไม่ต้องจบเหมือนหนังสือเล่มเดิม ที่เราเปิดอ่า นซ้ำ
“คบกัน มา 4 ปี เลิกเพราะนิสัยต่างกัน มาก อายุห่างกัน 8 ปี เลิกแบบเจ็บทั้งคู่ เพราะรักกันอยู่แต่จูนกันไม่ได้สักที เอาแต่ทะ เลาะจนเลิก ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย (แต่ยังลืมกันไม่ลงค่ะ) ผ่านไป 3 ปี มีเหตุบังเอิญให้ได้คุยกัน เจอกันอีก
รู้สึกว่าเราคิดถึงกัน มาก และต่างคนก็ไม่มีใคร เลยกลับมาคุยกันอีก เราสัญญากันว่าค่อยๆ ดูกันว่าเราสองคนได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาดและปรับปรุงตัวหรือยัง
เพราะถ้าเราไม่โต ไม่ปรับปรุงคงเจ็บแบบเดิมอีก สุดท้ายคบกันใหม่อีก 3 ปี แล้วรู้ว่า เราสองคนเข้ากันได้ ไม่ทะ เลาะกัน เลยแต่งงานค่ะ ตอนนี้แต่งมา 3 ปีกว่า และกำลังมีตัวน้อยในท้องด้วย
การกลับมาคบกันใหม่ ต้องเริ่มจากลืมหรือยกโทษความผิดในครั้งแรกก่อน มันจะเปล่าประโยชน์มาก หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยังพูดเรื่องเก่า และไม่ปรับปรุงตัวค่ะ”
ไม่ได้แปลว่า กลับมาคบคนเก่าแล้วต้องเศร้าเสมอไป ที่สำคัญคือ เรายังรักกันจริงหรือเปล่า ถ้ามีแต่เราที่พยายามจะรักษาเขาไว้
ชีวิตคู่เดินหน้าต่อไปไม่ไหว คนสองคนต้องเลือกซึ่งกันและกัน รักกัน มากพอจะเดินหน้า ไม่ใช่เรียกร้องให้อีกฝ่ายต้องทำความเข้าใจ
ติดเกมส์นะ ไม่มีเวลาให้ แต่เธอต้องเข้าใจ “ฉันงี่เง่า” ก็เห มาว่าเธอจะต้องยอมรับไหว ถ้า “ไม่” แล้วกลับมาทำไม
บุญแค่ไหนที่ฉันให้โอกาส คู่รักไม่ใช่คู่แข่ง ไม่ต้องแย่งกันเอาชนะ รักใครให้ดูแล
ทุกความสัมพันธ์ต้องใช้เวลา เพื่อเรียนรู้ซึ่งกันและกันว่า เรารักกันจริงๆ หรือแค่อยากทิ้งสถานภาพโสด ไม่ว่าคนเก่าหรือคนใหม่ ก็ขอให้ดี อย่ามาแบบถี่ๆ
แต่ไม่จริงใจ จะเป็นหัวใจใคร ไม่มีใครอยากเสียใจซ้ำๆ ไม่ว่าจะกับคนใหม่หรือกับคนที่เป็นหัวใจเดิมๆ