ข้อคิดสอนใจ

รักควรใช้ “สมอง หัวใจ และสติ”

คุณเคยเฝ้าถามตัวเองไหมว่า เมื่อความรักบังเกิดขึ้นภายในใจ คุณรักเขาหรือเธอคนนั้นเพราะอะไร เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงปล่อยใจไปกับความรู้สึก ที่กรุ่นด้วยความสุข ณ ช่วงเวลานั้น

มากกว่าจะถามหาเหตุผลกลไกทางความรักให้ซับซ้อน ก็เพราะรักไปแล้วจะมัวแต่ถามหาที่มาของความรู้สึกดีๆ ที่อบอุ่นหัวใจแบบนี้ทำไม มาใช้เวลาแห่งความสุขนี้ให้คุ้มค่าดีกว่า

รักก็คือรัก หาเหตุผลไปก็เท่านั้น คน มัน มีใจผูกพันแล้วจะให้ทำยังไง กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปน่าจะพอมีหวัง เหมือนเห็นแสงไฟสีชมพูเรืองๆ

อยู่ปลายอุโมงค์ที่มีซุ้มดอกไม้และเห็นภาพเขารางๆ ยืนใส่ชุดทักซิโด้รออยู่ แบบนี้เรียกเพ้อฝันจนเห็นภาพลวงตา”

รักที่ใช้แค่ความรู้สึกนำทางเท่านั้น หากมองถึงความสัมพันธ์ระยะยาว คงเป็นไปได้ยาก แต่รักที่เต็มไปด้วยเหตุผลโดยไม่มีความรู้สึกเจือปน จะเรียกว่ารักได้อย่างไรกัน

แล้วความรักควรใช้เหตุผลหรือความรู้สึกนำทางกันแน่?

เราทุกคนคือเชฟผู้ปรุงรัก ทุกความสัมพันธ์ประกอบด้วยหลากหลายความรู้สึกและเหตุผลนานัปการระคนกัน

หากเปรียบรักเฉกเช่นการปรุงอาหารอาจช่วยให้เห็นส่วนประกอบของเหตุผลและความรู้สึก

ที่คลุกเคล้ากับความรักได้ดีขึ้นบ้าง เมื่อคุณคือเชฟผู้มีหน้าที่ออกแบบและปรุงรสอาหารให้กลมกล่อม

ด้วยส่วนประกอบชั้นดีที่มีอยู่ในครัวควบคู่กับรสมือและการเอาใจใส่อย่างพิถีพิถัน

ความรักก็เช่นกัน คุณสามารถปรุงรักให้ครบรสได้ด้วยส่วนผสมต่างๆ ดังนี้

ระลึกเสมอว่านี่คือคนรัก

รู้อย่างนี้แล้วคุณจะตั้งใจและใส่ใจทำให้ความรักครั้งนี้พัฒนาไปไกลยิ่งขึ้น

เริ่มด้วยความมุ่งมั่น

ส่วนผสมแรกคือความมุ่งมั่น เพื่อให้คนรักรู้ว่าคุณจริงจังและจริงใจกับเขามากแค่ไหน

อารมณ์ขัน

ไม่ต้องทำให้เขาหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง แค่เขารู้สึกสบายใจเมื่ออยู่กับคุณก็พอ

คนที่มีอารมณ์ขัน มักไม่ค่อยคิดเล็กคิดน้อย แถมยังสนุกกับการแก้ปัญหาด้วย เชื่อว่าคนรักของคุณ

จะปลาบปลื้มมากแน่ๆ

ความเข้มข้น

อย่าทำให้รักจืดชืดเป็นน้ำยาเย็น คุณควรหมั่นสร้างบรรยากาศดีๆ อยู่เสมอ เพราะรักที่เริ่มจืดจาง ย่อมนำมาซึ่งการปล่อยปละละเลยกัน

อย่ากินหมดทุกอย่าง

ความรักก็เหมือนอาหารที่มีทั้งคุณและโทษ ดังนั้นจงเลือกเฉพาะของที่มีประโยชน์ อะไรที่ไม่ดี

ก็ไม่ต้องกิน เช่นเดียวกับอดีตที่เ ล วร้ า ยหรือความผิดพลาดครั้งก่อน ทิ้งมันไว้แล้วเลือกจดจำแต่สิ่งที่ดี

ความเชื่อใจและความซื่อสัตย์

จงปรุงรักด้วยหัวใจ ซื่อสัตย์ใส่ใจเลือกสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยม แม้คนกินจะไม่รู้ว่าคุณทำความสะอาด

วัตถุดิบก่อนปรุงหรือไม่ อย่าให้คนรักต้องคอยตรวจสอบทุกขั้นตอน แต่จงทำให้เขามั่นใจว่าคุณซื่อสัตย์ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

กลั่นกรอง

วัตถุดิบบางอย่างนั้นเราจำเป็นต้องกลั่นกรองหรือแยกส่วนที่ไม่ดีออกก่อน ความรักก็เช่นกัน ไม่ต้องคิดมากจนเกินเหตุหรอก อะไรที่ทำให้ชีวิตรักของคุณแย่ก็แค่ขจัดมันทิ้ง

ความหวาน

ไม่ใช่ทุกเมนูที่ต้องการความหวาน ความรักก็ไม่ต้องเติมหวานตลอดเวลา แต่ต้องรู้ว่าเวลาไหน ควรสวีทจู๋จี๋กุ๊กกิ๊กกัน เหมือนกับการทำอาหารที่ต้องรู้ว่าเมนูไหนควรหวานนำหรือตัดเลี่ยนด้วย

รสเปรี้ยว

ความร้อนเหมือนแรงขับเคลื่อน แต่ละเมนูนั้นใช้ความร้อนไม่เท่ากัน อาจด้วยไฟอ่อนๆ แล้วค่อยๆ เร่งให้แรงขึ้น ความรักก็เช่นกัน ต้องรู้ว่าเวลาไหนควรจริงจังหรือผ่อนคลาย ที่สำคัญคืออย่าให้ไฟรักมอดเป็นพอ

อิสระ

ในตำราอาหารอาจระบุให้ใส่ส่วนประกอบใดกี่ช้อนชาหรือช้อนโต๊ะ แต่ใช่ว่าทุกคนบนโลกใบนี้ จะถูกปากกับสูตรนั้น จงเลือกปรุงแบบที่คุณชอบกินดีกว่า เหมือนกับความรักที่คุณต้องเข้าใจเขาด้วย

อย่าปรุงเฉพาะรสที่คุณกินได้ แต่ต้องทำให้คนรักกินได้ด้วย และหากคุณกินคละรสก็อย่าบังคับ ให้เขากินจานเดียวกับคุณ ให้เขามีอิสระได้เลือกตามใจชอบบ้าง

ความสดใหม่

อาหารจะอร่อยหากใช้วัตถุดิบสดใหม่ ความรักก็เช่นกัน อย่าให้ความเ บื่ อหน่ายเข้ามาแทนที่ สรรหาสิ่งแปลกใหม่ทำบ้างเพื่อให้ความรักของคุณมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น

กลิ่น

แม้อาหารจะดูน่ากินแค่ไหน แต่หากว่ากลิ่นแรงหรือเหม็นก็คงไม่มีใครอยากลิ้มลอง คุณเองก็ต้อง รู้จักดูแลตัวเองให้ดูดีด้วย ประพรมน้ำหอมเล็กน้อยเพื่อเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดทางหนึ่ง

ความพอดี

คนเรากินได้เท่าที่อิ่มแค่นั้นแหละ ต่อให้มีอาหารหรูหราน่ากินได้มากมายแค่ไหนก็ใช่ว่าจะกินหมด ความรักก็เช่นกัน ความพอดีจะทำให้ความรักของคุณค่อยเป็นค่อยไป

เห็นคุณค่า

ข้อสุดท้ายเมื่อใส่ส่วนผสมทุกอย่างคลุกเคล้ากันแล้วก็ต้องเห็นคุณค่าของอาหารจานนั้นด้วย กว่าจะได้วัตถุดิบแต่ละอย่างหรือกว่าจะได้รสชาติที่กลมกล่อมก็ต้องผ่านการลองผิดลองถูก

มาหลายครั้ง อย่ากินทิ้งกินขว้างหรือไม่เห็นคุณค่า เหมือนกับความรักของคุณนั่นแหละ กว่าจะถึงวันนี้ ก็พบพานเรื่องราวมากมาย

อย่าปล่อยมือจากกันเพียงเพราะคุณเจออาหารจานใหม่ที่อร่อยกว่า เพราะใช่ว่าอาหารทุกประเภทจะเห มาะกับคุณเสมอไป

นี่เป็นเพียงส่วนผสมบางอย่างของสูตรรักเท่านั้น แต่หากคุณมีหลักของการปรุง

เชื่อว่ารักของคุณย่อมกลมกล่อมด้วยเหตุผลและความรู้สึก และไม่เอนเอียงไปทางใดทางหนึ่ง

เพราะรักอาจเริ่มต้นด้วยใจ แต่การประคับประคองรักในบางครั้งก็ต้องใช้เหตุผลควบคู่กันไปด้วย

รักอย่างไรไม่ไร้ “สติ”

“ความรักอาจไม่มีเหตุผล แต่จงมีเหตุผลเมื่อรู้ว่าเขาไม่รัก”

เป็นความจริงที่อย่ามัวเสียเวลาหาเหตุผลในวันแรกรัก จนลืมซึมซับบรรยากาศแห่งความสุข

แต่เมื่อวันแห่งการเลิกรามาเยือน คุณควรหาเหตุผลส่วนตัวเพื่อประกอบการเลิกราในครั้งนั้น

แต่อย่าเฝ้าถามหาเหตุผลจากอีกฝ่าย เพราะเชื่อว่าคุณคงไม่ได้รับคำตอบที่แท้จริงของการเลิกรา

แต่อาจได้ยินคำเสียดแทงที่คอยตอกย้ำความเจ็บปวด เช่น เธอดีเกินไป เราหมดรักเธอแล้ว

เราอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว ฯลฯ จนวันเวลาผ่านไปจึงรู้ความจริงที่ฉาบด้วยถ้อยคำถนอมน้ำใจ

ก่อนหน้านั้นว่า เขามีคนใหม่มานานแล้ว

เมื่อจำต้องเลิกรา สิ่งที่คุณควรทำไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีคำถนอมน้ำใจใดมอบให้คือ จงตั้งสติ

แล้วถามตัวเองว่า หากคุณไม่ยุติความสัมพันธ์ครั้งนี้ คุณจะยังมีความสุขกับชีวิตมากน้อยเพียงใด

ความรักเป็นอนิจจังเฉกเช่นสิ่งอื่นๆ บนโลกใบนี้ที่ล้วน มีวัน “เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป”

หากคนเรามองชีวิตและความรักอย่างเข้าใจว่า จะเร็วหรือช้ารักย่อมมีวันเลิกรา สิ่งสำคัญและ

ต้องทำคือ ต่างฝ่ายต่างดูแลทะนุถนอมความรัก และความรู้สึกซึ่งกันและกันในแต่ละวันให้ดีที่สุด

เพราะชีวิตล้วน มีสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ทุกขณะ

ใช่ว่าสิ่งที่กล่าวมานั้นจะปฏิบัติตามอย่างง่ายดาย เพราะหากทุกคนทำได้คงไม่มี

เรื่องราวซับซ้อน รักสามเส้าเราสามคน ปัญหาหึงหวงทำร้ า ยอีกฝ่ายจนถึงชีวิต พ่อแม่ทะ เลาะจน

แยกทางกัน ลูกหนีออกจากบ้านกลายเป็นคุณแม่วัยใส และอีกหลากหลายปัญหาเกิดขึ้นเป็นแน่

ดังนั้น องค์ประกอบที่สำคัญในการมีรักและใช้ชีวิตในทุกวัน นอกจากความรู้สึกและเหตุผลที่ พอเห มาะพอควรแล้ว

สิ่งที่ควรมีอย่างมากเลยคือ “สติ” ที่ต้องหมั่นฝึกฝนกระทั่งกลมกลืนกับชีวิต

Meko