ในที่สุดคุณก็เริ่มคบกับหนุ่มที่คุณชอบจริงๆ เขาเป็นคนตลก มีเสน่ห์ เอาใจใส่ และที่สำคัญเขาชอบคุณด้วย เขาก็มักจะโทรกลับหาคุณเสมอ ไม่เคยละทิ้งการเดท
ว่างมากจนอาจจะดูเหมือนว่าว่างเกินไปและตลอดเวลา ผช.คนนี้มีคุณสมบัติครบอย่างที่คุณต้องการทว่าคุณกลับอยากให้เขาลดๆความดีลงมาหน่อย (หรือมากๆเลยก็ได้) เอาละเราจะมาช่วยถอดรหัสว่าเขาชอบคุณมากเกินไปหรือไม่
1. เขาส่งข้อความหาคุณไม่หยุด
การตื่นขึ้น มาพร้อมกับข้อความที่ว่า อรุณสวัสดิ์คนสวย แน่นอนว่ารอยยิ้มจะเบ่งบานไปทั่วใบหน้าและทำให้คุณรีบลุกออกจากเตียงไปทำงาน
แต่ถ้าเขาส่งข้อความมาไม่หยุด คุณอาจจำเป็นต้องแตะเบรก คุณอาจบอกไปว่าคุณงานยุ่งหรือไม่มีเวลาตรวจสอบทุกข้อความหรือต้องการพื้นที่เล็กๆซึ่งการบอกเขาอย่างตรงไปตรงมาคือวิธีที่ดีที่สุด
แต่ถ้าไม่ได้ผลคุณควรคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว การตั้งขอบเขตแต่เนิ่นๆจะทำให้เขารู้ว่านี่คือวิธีของคุณเพื่อที่เขาจะได้ไม่คิดมากและคิดว่าจู่ๆคุณก็ไม่อยากคุยกับเขา
2. เขาอยากพาคุณไปพบกับครอบครัวก่อนการเดทครั้งที่ 3
หากคุณรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนเมื่อนึกถึงการนั่งอยู่ในห้องทานข้าวท่ามกลางผู้ที่เลี้ยงดูเขาในสมัยที่ยังเป็นทารกนั่นก็ห มายความว่าคุณยังไม่พร้อม
การพบกับครอบครัวของเขาควรเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและช่วยทำให้คุณมั่นใจในความสัมพันธ์ไม่ใช่ทำให้คุณรู้สึกกังวลหรือกลัวมาก
ดังนั้นหากดำเนินความสัมพันธ์เร็วเกินไปก็อาจทำให้เกิดภาวะช็อกขึ้นได้
ทางออกที่ดีที่สุดคือบอกผช.ของคุณว่าเราควรคบกันให้นานกว่านี้อีกหน่อยก่อนที่จะพาไปพบครอบครัวหรือเพื่อนๆ คุณต้องอธิบายว่าคุณชอบเขาแต่ยังไม่พร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไป
3. จู่ๆเขาก็โผล่มาและอยากพาคุณไปเที่ยว
ความคิดนี้อาจฟังดูโรแมนติกแต่ความจริง คุณรู้สึกว่าเขาเหมือนกับพวกโ รคจิต แม้ว่าคุณจะอยากดื่มไวน์หรือรับประทานอาหารมื้อค่ำและคิดว่าเขาน่ารักที่พยายามวางแผนบางสิ่งที่พิเศษสำหรับคุณ
แต่นี่คือสัญญาณว่าคุณต้องกำหนดขอบเขตให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ถ้าเขาต้องการพาคุณไปเที่ยวข้างนอกและอยากทำอะไรน่ารักจริงๆเขาควรบอกคุณก่อนล่ วงหน้า
4. เขาดูแลคุณในวิธีที่ค่อนข้างแปลก
เพื่อนๆของคุณอาจคิดว่าการที่เขาไปหาคุณที่บ้านพร้อมกับซุปไก่เมื่อคุณส่งข้อความไปบอกเขาว่าคุณเป็นหวัดนั้นดูน่ารักดี
แต่การกระทำของเขาอาจทำให้คุณรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยและเขาไม่ควรทึกทักว่าคุณจะต้องเปิดประตูรับทุกครั้ง
คุณต้องบอกว่าคุณชื่นชมสำหรับความห่วงใยและความเอาใจใส่ของเขา แต่ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือใดๆล่ะก็คุณจะบอกเอง
อย่างไรก็ตามหากคุณพยายามควบคุมสถานการณ์โดยการตอบสนองเพียงเล็กน้อยก็จะยิ่งทำให้เขาเกิดความรู้สึกกังวลและยิ่งรุกหนักมากยิ่งขึ้น
5. เขารุกล้ำเข้าไปในเวลาส่วนตัวของคุณ
ถ้าคุณเล่าว่าคุณเป็นสมาชิกของโรงยิมแถวบ้านและน้ำเสียงของเขาฟังดูประหลาดใจ เขาอาจจะรีบมาลงทะเบียนเพื่อแอบดูคุณออกกำลังกายก็ได้
แต่ถ้าเขาเริ่มค้นหาสถานที่เหล่านั้นโดยที่คุณไม่ได้บอกข้อมูล แน่นอนว่าเขากำลังละ เมิดขอบเขตและคุณต้องพูดอะไรบางอย่างออกไปทันที
คุณควรอธิบายว่านี่คือกิจกรรมที่คุณสนุกและชอบทำคนเดียวจากนั้นก็ลองยกตัวอย่างกิจกรรมที่คุณอยากจะทำกับเขา เชื่อไหมว่าเขาจะสามารถเข้าใจมุมมองของคุณได้ดีขึ้น
6. เขาพูดว่า ผมรักคุณ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจว่าคุณชอบเขา
หากประโยคนี้หลุดออกมาจากปากของเขาแต่สีหน้าของคุณกลับตกใจสุดขีดนั่นก็ห มายความว่าความสัมพันธ์นี้อาจจะเร็วเกินไปและคุณยังไม่พร้อม
คุณจำเป็นต้องสร้างความมั่นใจให้กับเขา บอกเขาว่าคุณสามารถไปถึงจุดนั้นได้ในอนาคตแต่ตอนนี้คุณยังไม่พร้อม
จากนั้นคุณก็ต้องปรับความเข้าใจกับตัวเองว่าจะสามารถไปถึงจุดนั้นได้จริงๆหรือไม่ แต่ถ้าคุณรู้สึกเหมือนว่าความสัมพันธ์ยังไม่ค่อยดีก่อนที่เขาจะบอกรักออกมา
คุณควรหยุดและปล่อยเขาเป็นอิสระเพื่อให้เขามีโอกาสได้พบเจอกับคนใหม่ๆ
อย่างไรก็ตามหากคุณรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่คุณต้องการก็จงก้มหน้ายอมรับแต่โดยดีและที่สำคัญอย่าทำร้ า ยจิตใจของคนที่รักคุณเด็ดขาด
นี่ล่ะคือสิทธิและเสรีภาพในการเลือกคู่ของผญ. จงใช้ชีวิตให้คุ้มค่าและรักคนที่คุณต้องการรักจริงๆ ไม่ใช่หนุ่มๆที่ใช้ชีวิตลอยไปลอยมาไปวันๆ