เราต้องสังเกตวิธีที่เขาแสดงความรักต่อผู้อื่น และสิ่งที่พวกเขาขอจากคนรักบ่อยที่สุด เขาตั้งทฤษฎีว่าคน มักจะให้ความรักในแบบที่พวกเขาต้องการ
การสื่อสา รระหว่างคู่รักจึงจะสามารถทำได้ดีขึ้นเมื่อต่างฝ่ายสามารถแสดงความห่วงใยต่ออีกฝ่ายในภาษารักที่เขาเข้าใจได้
1. คำพูดยืนยัน
บางคนอาจชอบให้คนรักพาออกไปกินข้าวและหากิจกรรมทำด้วยกันบ่อย ๆ แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่ได้ต้องการกิจกรรมอะไรมากมาย
เพียงแต่คำว่า รัก และ คิดถึง จากปากคนที่เขารักอย่างสม่ำเสมอ เช่น การบอกรักกันทุกคืนก่อนนอนก็ถือว่าเป็นภาษารักที่ทำให้เขาอิ่มใจได้แล้ว
2. การใช้เวลาคุณภาพร่วมกัน
อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ แม้บางคนจะมีภาษารักเป็นวาจาที่หวานซึ้ง แต่บางคนกลับชอบที่จะทำกิจกรรมร่วมกับคนรัก ซึ่งเขาจะถือว่ากิจกรรมเหล่านี้ถือเป็นภาษารัก
การไปกินอาหารมื้อพิเศษในร้านระดับ 4-5 ดาวและฟังสตอรี่ของอาหารด้วยกัน ไปเที่ยวต่างจังหวัดในทุก ๆ วันหยุดนักขัตฤกษ์ การได้ร่วมคิดร่วมทำธุรกิจด้วยกัน
3. การให้ของขวัญกัน
การให้ นั้น มีหลายมติ ทั้งการให้ใจ การให้ความช่วยเหลือ และการให้ของขวัญกันและกัน สำหรับภาษารักในข้อนี้บางคนอาจมองว่าการที่ได้ให้ข้าวของเครื่องใช้อีกฝ่ายบ่อย ๆ การซื้ออาหารอร่อย ๆ ที่เขาชอบ ถือเป็นการแสดงความรักและแสดงความเอาใจใส่แก่คนรัก
4. การให้ความช่วยเหลือกัน
การให้ความช่วยเหลือนี้เป็นไปได้ทุกอย่างตั้งแต่ช่วยกันทำงานบ้าน ช่วยกันทำงานหาเงิน ช่วยกันเลี้ยงลูก การให้การช่วยเหลือถือเป็นการผ่อนภาระของอีกฝ่ายจึงทำให้เป็น ภาษารักไปได้โดยปริยาย
5. การสัมผัสทางกายกันและกัน
รักแท้แพ้ความใกล้ชิด เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินสำนวนนี้ และเข้าใจดีว่าความรักจะเป็นความรักที่สมบูรณ์ไม่ได้หากขาดความใกล้ชิดไป
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการกอด จูบ จับมือ หรือการร่วมรักบนเตียงจึงเป็นภาษารักที่สำคัญที่ทุกคู่ควรเอาไม่ละเลย