จากการศึกษาของผู้เขียนในผช.ไทย 20 คน ที่กรุณาให้สัมภาษณ์อย่างลึกซึ้งและยอมเปิดใจพูด พบว่าการที่เขาไปมีภรรยาน้อย
หรือนอกใจภรรยานั้น มีสาเหตุหลายอย่างมากซึ่งคล้ายกับคนที่มาเป็นภรรยาน้อยที่มีหลายสาเหตุเหมือนกัน
แต่เหตุผลต่างกัน มากระหว่างหญิงและชาย ในกลุ่มที่ศึกษาพอสรุปผลตามคำบอกเล่าละความเข้าใจของสามีเหล่านี้เอง คือ
1. ความใกล้ชิดผญ.
สามีเหล่านี้คิดว่าเพราะตนไปใกล้ชิดภรรยาน้อยด้วยเหตุต่างๆ เช่น ทำงานร่วมกัน ใกล้ชิดโดยภรรยาน้อยเป็นเลขานุการของตน
ต้องไปประชุมต่างจังหวัด ต้องเดินทางไปต่างประเทศด้วยกันในการทำงาน ไปพบกันในงานสังคมบ่อยๆ แล้วมีกิจกรรมบางอย่างทำต่อเนื่องกันไป
เช่น เล่นกีฬา อยู่ชมรมบางอย่างแล้วเจอกันบ่อยๆ ต่อมาความใกล้ชิดทำให้เกิดความรัก ความผูกพันขึ้น เกิดความถูกใจ
สามีบางคนไปรู้เรื่องน่าสงส า รน่าเห็นใจ อยากช่วยทำให้พัวพัน จนเกิดเรื่องเ พศสัมพันธ์ตามมา
สาเหตุข้อนี้พบมากที่สุดคือประมาณสองในสาม คิดเป็น 66.67 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว เหตุผลที่สามีอ้างเรื่องความใกล้ชิดพาไปนี้จะเข้าทำนองคำกล่าวที่ว่า “รักแท้ แพ้ใกล้ชิด” กระมัง
2. ผช.มีทัศนคติว่าสามารถมีภรรยาได้หลายคน
มีผช.ในกลุ่มนี้ 7 คน จาก 20 คน ซึ่งมากถึงหนึ่งในสาม มีความคิดว่าไม่เห็นเป็นอะไร ผช.สามารถมีภรรยามากกว่าหนึ่งคนในขณะเดียวกันได้
หรือพูดอีกอย่างว่าเป็นเรื่องปกติของผช.ที่จะมีเมียหลายคนและผญ.ที่เป็นภรรยาหลวงน่าจะยอมรับได้
แต่ขณะเดียวกันผช.เหล่านี้จะค้านว่าภรรยาตนไม่มีสิทธิ์มีสามีได้หลายคนในขณะเดียวกัน แบบนี้ภรรยาหลวงต้องแปลว่าสามีเป็นคนเห็นแก่ตัวแน่นอน
3. ไม่มีความสุขกับภรรยาหลวง
เดิมข้อนี้เป็นที่เข้าใจของคนทั่วไปมากเหมือนกันว่า ถ้าสามีใครไปมีภรรยาน้อยแปลว่า เป็นความบกพร่องของภรรยาหลวงที่ไม่สามารถ “มัดใจ” สามีไว้ได้
หรือพูดทำนองว่า “สามีคนเดียวก็เอาไว้ไม่อยู่” ซึ่งผู้เขียนไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาดว่าเป็นหน้าที่ของภรรยาที่จะไปมัดใจสามีไว้
ดังได้เขียนแต่ต้นแล้วว่า เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทั้งสามีและภรรยาที่จะทำให้ชีวิตคู่มีความสุข ไม่ใช่หน้าที่หรือเป็นภาระของผู้หนึ่งผู้ใดทั้งสิ้น
จากการศึกษาครั้งนี้ก็น่าประหลาดใจเช่นกันที่พบว่าสามีที่มีเมียน้อย มีเพียง 10% ที่บอกว่าไม่มีความสุขในชีวิตสมรส ส่วนใหญ่ถึง 90% ยังมีความสุขดีในครอบครัวเดิมแต่ก็ยังไปมีภรรยาน้อยอยู่ดี
ข้อนี้ช่วยให้ภรรยาหลวงไม่ต้องตกเป็นจำเลยของปัญหาเลย เพราะต่อให้สามีรู้สึกไม่มีความสุขในชีวิตคู่จริง ก็ยังต้องช่วยกันแก้ไข ไม่ใช่นำไปเป็นข้ออ้างในการมีภรรยาอีกคน
หรือไม่สามีควรต้องจบชีวิตคู่กับภรรยาเดิมให้เรียบร้อยเสียก่อนน่าจะถูกต้องกว่าที่จะสร้างปัญหาใหม่ซ้อนขึ้น มาบนปัญหาเดิม ซึ่งพลอยทำให้ลูกต้องรับกรรมตามไปด้วย
4. สาเหตุอื่นๆ
สามีหลาย ๆ คนพูดว่าที่มีภรรยาน้อยเพราะภรรยาน้อยสามารถให้ประโยชน์กับตน เช่น เงินทอง ข้าวของและสามารถสนับสนุนให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานที่ทำอยู่
เพราะภรรยาน้อยมีเส้นสายหรือมีผู้ใหญ่ที่ภรรยาน้อยวิ่งเต้นให้ได้ บางคนจะอ้างว่าที่ไปมีเมียน้อย เพราะเป็นเพียงวิธีหาความสุขของผช.เท่านั้น
สามีบางคนเห็นว่าการมีเมียน้อย เป็นความสามารถของสามี คือสามารถทำให้ผญ.มายอมเป็นเมียน้อยของตนได้
สาเหตุที่กล่าวมาข้างต้นที่สามีเข้าใจตนเองว่าทำไมจึงมีภรรยาน้อยนั้นอยู่ในระดับที่มองเห็นได้และเข้าใจได้ทั่วๆ ไป
แต่ถ้าวิเคราะห์ให้ดีจะเห็นว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ผช.เหล่านี้ไปนอกใจภรรยาก็คือบุคลิกนิสัยส่วนตัวนั่นเอง
เพราะพบจากการสัมภาษณ์ว่าคนเหล่านี้มีปัญหาบุคลิกภาพหลายๆ อย่างเป็นพื้นฐานหรือต้นตอเดิม คือพบว่าเป็นคน มีอารมณ์อ่อนไหวเปลี่ยนแปลงง่ายไม่ชอบตัดสินใจ
ไม่ชอบคิดมาก ปล่อยตามสบาย ไม่ชอบแสดงออก หุนหันพลันแล่น เป็นต้น คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ ควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดี
จะชอบปล่อยตัวปล่อยใจไปเรื่อยๆ แล้วแต่เหตุการณ์จะพาไป หรือไม่ยับยั้งชั่งใจ ให้ดี ไม่พยามยามหักห้ามใจไม่ให้ทำผิด ไม่ข่ มใจ ไม่อดกลั้น ไม่หยุดตัวเอง
ไม่ยุติปัญหาตั้งแต่ต้น แล้วพาไปสู่การพ่ายแพ้แก่อารมณ์ของตนหรือที่เรียกอีกอย่างว่า แพ้ต่อกิเลสตัณหาของตน
เพราะไม่ใช่ผช.ทุกคนที่ใกล้ชิดผญ.อื่นหรือมีโอกาสที่มีผญ.อื่น มาเสนอตัวแล้วจะต้องลงเอยด้วยพฤติกรรมนอกใจภรรยาเสมอไป
ซึ่งน่าดีใจที่ ผช.ส่วนใหญ่ 75-80% ยังมีคุณธรรมมีบุคลิกนิสัยที่ดีอยู่ที่ทำให้สถาบันครอบครัวอยู่ดีมีสุขและเข้มแข็ง ดังนั้นจึงเป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่าการเลือกคู่ต้องดูนิสัยใจคอให้ดีๆ
ที่กล่าวมาในบทนี้ดูเหมือนจะชี้นำว่าสามีนั้นเป็นฝ่ายสร้างปัญหาให้ครอบครัวมากกว่า
จริงๆ แล้วเป็นที่ทราบกันดีทั่วไปว่าปัญหาครอบครัวส่วนใหญ่จะมาจากฝ่ายชายมากกว่าฝ่ายหญิง แต่ฝ่ายผญ.หรือภรรยาที่สร้างปัญหาให้ครอบครัวก็มีเช่นกัน แม้จะเป็นจำนวนที่น้อยกว่า
.. ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์สามารถจะเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความทุกข์ได้มาก ถ้าไม่เข้าใจธรรมชาติของชีวิตและมีการเตรียมใจ ..
ตัวอย่างความทุกข์ของภรรยาที่สามีนอกใจและทำให้ลูกก็ทุกข์ด้วย เช่น
“ภรรยาแค้นใจไม่เลิกที่สามีนอกใจ … ผญ.อายุ 38 ปี เป็นครู สามีเป็นวิศวกร มาพบจิตแพทย์เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรจึงจะลืมเรื่องสามีปันใจให้ผญ.อื่น
ภรรยาต่อว่าสามีซ้ำๆ ซากๆ แม้สามีได้ยอมรับผิดและเลิกติดต่อกับผญ.แล้วก็ตาม จนสามีไม่ยอมพูดเรื่องนี้อีก และเริ่มไม่พอใจภรรยา
ภรรยารู้สึกคิดไม่ตก ทำใจไม่ได้ ไม่อยากมองหน้าสามี เรื่องเกิดเมื่อสามีไปเรียนปริญญาโทพบผญ.คนหนึ่งเรียนอยู่ด้วยกันช่วยกันเรียนจนเกิดความใกล้ชิดสนิทสน ม
และรู้สึกชอบ คิดถึงไปกินข้าวกับผญ.คนนั้น โทรศัพท์คุยกันประจำ
สาเหตุที่ภรรยารู้เพราะบังเอิญภรรยาไปจัดโต๊ะของสามีแล้วสมุดบันทึกตกลงมาจากโต๊ะและสมุดเปิดหน้าที่สามีเขียนบันทึกถึงการพบผญ.คนนั้นพอดี
ภรรยาจึงอ่ า นพบเรื่องราวทั้งหมดเข้า ภรรยาคิดไม่ตก คิดหมกมุ่น และมีคำถามในใจมากมาย เช่น
– ทำไมสามีจึงไปชอบได้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นคนเจ้าชู้เลย
– ไม่เคยคิดมาก่อนว่าสามีจะทำเรื่องแบบนี้ได้
– ทำไมสามีจึงชอบผญ.คนนั้น ทั้งๆ ที่ผญ.คนนั้นก็มีสามีแล้ว
– ทำไมสามีจึงไม่หักห้ามใจของตัวเองให้ได้
– เมื่อรู้ว่าทำผิดครั้งแรก โดยไปกินข้าวกับผญ.สองต่อสองแล้วทำไมจึงยังทำผิดครั้งต่อๆ มาอีก
– ทำไมสามีถึงมาห ล อ пตนได้ โดยชวนตนไปกับผญ.คนนั้นหลายครั้ง
– ภรรยารู้สึกแค้นผญ.คนนั้น มาก
– รู้สึกเหมือนถูกต บหน้า ถูกทร ยศ และถูกหักหลังจากสามี
– รู้สึกเสียใจว่าตนเองไม่ดีอย่างไร ผญ.คนนั้นดีกว่าอย่างไรรู้สึกสามีเห็นตัวเองไม่ดีพอ (ภรรยาเสียความรู้สึกเกี่ยวกับตัวเอง)
– รู้สึกสามีไม่รักตนแล้ว จึงทำแบบนี้ได้
เรื่องนี้ถ้าภรรยาจะทำใจให้ได้จะต้องเข้าใจว่าจิตใจของมนุษย์บางคนอ่อนแอ บางครั้งถ้าไม่สามารถควบคุมจิตใจหรือกิเลสได้ก็จะเกิดความผิดพลาดแบบนี้
คนทุกคน มีโอกาสทำผิด แต่ถ้าทำผิดแล้วกลับใจและยอมรับผิด ก็ควรให้เรื่องจบไป เรื่องอะไรที่จะเกิดขึ้นแล้ว
แก้ไขไม่ได้และได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว อย่าได้เสียเวลาชีวิตปัจจุบันที่ควรมีความสุขกับเรื่องในอดีตที่แก้ไขไม่ได้อีกเลย
.. การให้อภัย อโหสิกรรม เป็นสิ่งจำเป็น และคุ้มกับการไม่ต้องทุกข์ทรมานใจ ..