เช้าวันหนึ่ง ภรรยาบอ กกับสามีว่า “วันนี้ ฉันจะกลับบ้านไปเยื่ยมแม่ คุณจะขับรถไปส่งฉันหน่อยได้ไหม
ฝนตกหนักแบบนี้ ไปรถโดยສ า รไม่สะดวกเลย” สามี ซึ่งหน้าตาบู ด บึ้งมาตั้งแต่เช้าไม่ตอบภรรยา
แต่กลับกระชากเสียง ถามกลับไปว่า “เมื่อวาน เธอซื้ อเสื้อใหม่ มาใช่ไหมเธอรับปากฉันแล้วนะ ว่าจะไม่ใช่เงินฟุ่มเฟือยเรายังต้อง
ผ่ อนบ้าน ผ่ อนรถ ส่งลูกเรียนค่าใช้จ่ายเยอะแยะ ทำไมไม่ช่วยกันประหยัด”
ภรรยา พูดออ กมา เสียงเบาๆ อย่างคนรู้สึกผิด ว่า “ที่แท้ คุณโกรธเรื่องนี้นี่เอง” ภรรยา ก้มหน้าจัดเสื้อผ้าเงียบๆ
แล้วบอ กสามีว่า “วันนี้ มีรถโดยສ า รเข้าเมืองแค่เที่ยวเดียวฉันคงต้องรีบไปแล้วหละคุณไม่ต้องไปส่งก็ได้”
แล้วเธอ ก็ออ กบ้านไปโดยสามีไม่สนใจเลย เพราะยังโกรธอยู่มาก ประมาณครึ่งชั่ ว โมงผ่านไป
สามีได้ยินเสียงเอะอะ บนถนน จึงออ กไปดู แล้วจึงได้ยินผู้คนตະ ໂпนกันว่า ฝนที่ตกหนัก เซาะตลิ่ง
จนสะพานเข้าเมืองได้ขาดลงมีรถเมล์คันหนึ่ง ตกลงไปในน้ำด้วย สามี ได้ยินดังนั้น ตกใจมาก
กระโดดออ กจากบ้านไปทันทีเมื่อไปถึงแม่น้ำ รถเมล์ที่ถูกเก็บกู้จากน้ำเหลือ เพียงซากเหล็กสัมภาระกระเป๋าต่างๆ
ของผู้โดยສ า รกระจัดกระจายมีการหามร่ าง ของผู้ เสี ย ชี วิ ต คนแล้วคนเล่า ขึ้น มาจากแม่น้ำ..ชายหนุ่ม
เฝ้ามองหาภรรยา ก็ไม่พบก็เสียใจเจียน สิ้ น ส ติ เฝ้าถามหน่ วยกู้ภั ย ที่ทำงานอยู่ว่า
“เห็นภรรยาผมบ้างไหมๆๆๆ เธอใส่เสื้อสีแดง กางเกงสีดำ” ทุกคนส่ายหน้า บอ กว่าไม่เห็นเวลาผ่านไป
จนเกือบเย็น กู้ภัย หยุดการทำงาน เพราะไม่มี ผู้ เ สี ย ชี วิ ต ที่หาพบแล้ว จึงบอ กชายหนุ่มว่า
“หักห้ามใจเถอะนะ ภรรยาคุณ คงโดนน้ำพัดไปไกลแล้ว” ชายหนุ่มเดินกลับบ้าน
เหมือนคนไม่มีวิญญาณ ร้องไห้ไป คร่ำครวญไปตลอดทาง ในใจของเขา เฝ้าแต่คร่ำครวญว่า “ทำไมๆๆๆ เราไม่ขับรถไปส่งเธอนะ
เราไปด่าเธอทำไมว่าใช้เงินฟุ่มเฟือย เสื้อตัวเดียว มันจะราคาเท่าไหร่กัน” แต่เมื่อ กลับถึงบ้าน คาดไม่ถึงว่าภรรยากลับนั่งอยู่ที่
โต๊ะอาห ารมีอาห าร อยู่บนโต๊ะใน มือเธอ มีเสื้อ กันหนาวเก่าตัวหนึ่ง
ซึ่งเธอ กำลัง เย็บซ่อมชายเสื้อที่รุ่ยอยู่ “คุณไปไหน มาคะ” ภรรยายังพูดไม่ทันจบสามี
ก็ตรงเข้าไปกอดเธอจนแน่น “คุณเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม วันนี้ ฉัน มัวเอาเสื้อไปคืนที่ร้าน เสียเวลาอ้อนวอน
ให้เขารับคืนไปมากเลย ไปขึ้นรถเมล์ไม่ทันอากาศจะหนาวแล้ว ฉันเลยรื้อเสื้อเก่ามาซ่อมก็พอใส่ได้อีกหลายปีนะคะ
ฉันนี่แ ย่ จริงๆ ของเก่าก็ยังมี ไปซื้ อของใหม่มาทำไม” เรื่องบางเรื่อง เราโกรธจนลืมไปว่า
มันไม่สำคัญเทียบเท่ากับ “ความสุข” ของเราเลยนะเรื่องบางเรื่อง ไม่สำคัญเท่ากับ
“ความสุข” ของคนที่เรารักเรามีเวลาในโลกนี้ จำกัดเวลาที่ใช้ร่วมกันยิ่งจำกัดอะไรที่ไม่สำคัญมาก พอ ก็อย่ านำมาเป็นอารมณ์มากมายนักเลย