แน่นอนว่าหลายคนต้องเคยเพื่อนๆ ญาติๆ หรือคนรู้จัก ชอบมาขอยืมเงิน แต่ไม่รู้จะบอ กปัดยังไงดี ยิ่งเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ไม่เข้าใครออ กใคร ทำความสัมพันธ์พังมานักต่อนักแล้ว
แถมตัวเองก็ใช่ว่าจะมีเงินเหลือเฟือ ว่าแต่จะปฏิเสธยังไงดีล่ะ ไม่ให้เสียน้ำใจ ยังคงรักษามิตรภาพดีๆ ต่อ กันเหมือนเดิม
1. เสนอทางออ กอื่นๆ ให้แทน
เป็นวิธีแรกๆ ที่เราสามารถแนะนำคนที่มาขอยืมเงินได้ ด้วยการหาทางออ กเพื่อแก้ปัญหาทางการเงินแบบอื่นๆ ให้แทน โดยที่เราไม่ต้องเดือดร้อน
เช่น แนะนำให้ไปยืมคนอื่น ชี้ช่องทางหารายได้เสริม แนะแนวทางขอสินเชื่ออื่นๆ จากธนาคาร เป็นต้น เพื่อเป็นการปฏิเสธแบบเนียนๆ และอย่างน้อยก็อาจจะเป็นตัวช่วยให้เขาพ้นจากปัญหาได้
2. ขอเวลาตัดสินใจสักพัก
การตัดสินใจให้ใครยืมเงิน ไม่ควรที่จะตอบตกลงทันทีอยู่แล้ว เพราะเราจะได้กลับมาคิดดูดีๆ ก่อนว่าสมควรให้ยืมหรือไม่
อีกทั้งยังมีเวลาไปเช็пให้แน่ใจด้วยว่าเขาเดือดร้อนจริงไหม ไม่ใช่มาห ล ວ กเอาเงินเราไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หรือติดพ นั น ดังนั้น การตอบไปก่อนว่า “ขอเวลาตัดสินใจสักพักก่อนนะ” เท่านี้ก็น่าจะเซฟตัวเองได้พอสมควร
3. ช่วงนี้ไม่มีเงินเหมือนกัน
ตอบชัดๆ ไปเลยว่า “ช่วงนี้ไม่มีเงินเหมือนกัน” ก็เป็นทางออ กที่ดี และทำให้เราพ้นจากการถูกตามตื้อได้ ซึ่งอาจจะยกเหตุผลต่างๆ เกี่ยวกับปัญหาทางการเงินของเราในช่วงนี้
ว่ามีภาระอะไร ต้องใช้จ่ายมากน้อยแค่ไหน บางทีอาจจำเป็นต้องดึงดราม่าสักหน่อย แต่อย่าเว่อร์เกินไปล่ะ เมื่อเขาเห็นว่าเราเองก็เครียดเรื่องการเงินเหมือนกัน สุดท้ายก็คงเลิกราไปเอง
4. มีแผนต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในอนาคต
หากคนที่มายืมเงิน รู้ว่าเราพอมีเงินเก็บเหลืออยู่บ้าง เลยมาขอยืมไปหมุนก่อน การตอบไปว่าไม่มีเงินให้ยืม ก็ดูจะไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่
เพราะฉะนั้น อาจจะตอบไปว่าตอนนี้มีเงินก็จริง แต่ตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ในอนาคต เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ ทำธุรกิจ ค่าเทอมลูก ฯลฯ ถ้าให้ยืมไปตอนนี้ เงินก็จะไม่พอ เชื่อว่าเหตุผลนี้เพื่อนๆ น่าจะเข้าใจได้
5. นำเงินที่มีไปลงทุนหมดแล้ว
เงินเก็บที่มีนำไปลงทุน ซื้อหุ้น ซื้อ กองทุนรวม หรือฝากประจำไปแล้ว เลยไม่สามารถจะถอนออ กมาให้ยืมตอนนี้ได้หรอ ก ก็เป็นคำตอบที่ดีและถนอมน้ำใจได้
ซึ่งร้อยทั้งร้อยพอได้ยินแบบนี้ คงไม่มีใครยังดึงดัน บอ กให้เราไปปิดบัญชี ขายหุ้น ถอนเงินออ กมาให้ยืมหรอ ก เพราะถ้ายังทำแบบนั้น ตัวเราเองต้องกลับมาคิดแล้วล่ะว่าจะเลือ กคบคนแบบนี้ต่อไปหรือเปล่า
6. มีคนอื่นยืมไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่ได้คืนเลย
อ้างไปเลยว่าพอดีมีคนอื่นยืมไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่ได้คืนเหมือนกัน โดยการหยิบเรื่องแบบนี้มาอ้าง สามารถช่วยตัดบทได้ดีเลยล่ะ
อย่างน้อยก็คงทำให้อีกฝ่ายฉุกคิดขึ้น มาว่า เดือดร้อนถึงขนาดจำเป็นต้องมายืมเงินเราจริงๆ ไหม ซึ่งส่วน มากพอรู้แบบนี้ ก็มักจะล้มเลิกความคิดขอยืมเงินไปเอง
7. ปฏิเสธไปตรงๆ อย่างจริงใจว่าให้ยืมไม่ได้จริงๆ
เมื่อโดนตามตื้อมากๆ ไม่ยอมเลิกราสักที ปฏิเสธแบบอ้อมๆ ซอฟต์ๆ ไปแล้วก็ยังไม่เข้าใจ สุดท้ายการเลือ กตอบแบบตรงๆ ชัดเจนไปเลยว่าให้ยืมไม่ได้
หรือตอนนี้ไม่สะดวกให้ยืมจริงๆ คงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ซึ่งเชื่อเลยว่าหลายคนพอได้รับคำตอบแบบนี้เข้าไป คงเลิกเซ้าซี้ขอยืมเงินเราอีกนานเลย เท่านี้ก็ไม่ต้องมานั่งลำบากใจอีกต่อไป
สุดท้ายแล้ว การให้ใครยืมเงินก็คงขึ้นอยู่กับการชั่งใจของแต่ละคนแล้วล่ะว่า สมควรให้ยืมหรือเปล่า เขาคนนั้นเดือดร้อนจริงๆ ไหม และเงินจำนวนที่ให้ยืมไปนั้น
ต้องไม่ทำให้เราเองเดือดร้อนด้วย ที่สำคัญคือ ถ้าไม่อยากให้ยืม ก็ปฏิเสธไปเลย อย่ารู้สึกผิด เพราะทุกคนต่างมีภาระของตัวเองกันทั้งนั้น