ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นวัยรุ่น คนที่เรามักจะคิดว่าวุ่นวายกับชีวิตของเรามากที่สุดคือพ่อและแม่ เดี๋ยวบ่น เดี๋ยวด่ า บางครั้งก็ตี บางทีก็ทำໂ ท ษ พูดเยอะพูดแยะไปหมด
แต่เธอรู้หรือไม่ว่าคำพูดเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่ท่านอยากจะพูดหรอ ก ความจริงแล้วพ่อและแม่ของเรามีความลับค้างคาในใจมากมาย
1. เหนื่อย
จริงอยู่ว่าการเติบโตขึ้น มาเจอสังคม เจอหน้าที่ที่เราต้องรับผิดชอบมากขึ้น บางทีก็ทำให้เราเหนื่อยจนไม่อยากพูดกับใคร หรือทำอะไร ไหนจะงาน ไหนจะเรียนต่อ ไหนจะความรัก
ชีวิตอีรุงตุงนังสิ้นดี แต่ระหว่างที่เราบ่นเหนื่อยลงเฟสบุ๊กแทบจะทุกนาที ลองคิดดีๆ อีกทีเถอะว่าพ่อแม่ของเราต้องเหนื่อยเท่าไหร่บ้างนะ
ฉันใช้ชีวิตด้วยตัวเองมาแค่ไม่กี่ปียังเหนื่อยขนาดนี้ แล้วพ่อ กับแม่ที่ดูแลฉัน มาตั้งแต่ฝ่าเท้าเท่าฝาหอย นอ กจากดูแลตัวเองยังต้องดูแลลูกอย่างฉัน มาเป็นสิบๆ ปี ท่านจะเหนื่อยมากแค่ไหนกัน เพียงแค่ท่านไม่เคยอยากบอ กให้เรารู้สึกหดหู่ไปด้วยเฉยๆ เท่านั้นเอง
2. อย่าลืมกันนะ
pxhere.com
คนเราเมื่อโตขึ้น คนรอบตัวก็มากขึ้น จากแต่ก่อนตอนยังเด็ก ชีวิตมีแต่พ่อแม่ แต่พอโตแล้วสังคมมันก็หลากหลาย เพื่อนเอย แฟนเอย
ซึ่งแต่ละความสัมพันธ์ก็เป็นอะไรที่เรารู้สึกสนุก กระตือรือล้นที่อยากจะทำความรู้จักอยู่ตลอด ซึ่งบางครั้งเราเองอาจจะสนุกกับภายนอ กมากจนลืมที่บ้านไปหรือเปล่า
เราได้เคยคิดบ้างมั้ยว่ามีใครกำลังนั่งรอเรากลับบ้านอย่างใจจดใจจ่อ ถ้าเธอยังไม่เข้าใจว่าความรู้สึกมันทรมานแค่ไหน ก็ให้ลองนึกถึงตอนที่ตัวเองกระวนกระวายใจเวลาแฟนหายไป ไม่โทรหา นึกถึงตอนที่ตัวเองกำลังเฝ้ารออะไรสักอย่างดูสิ
3. เข้าใจพ่อ กับแม่นะ
เคยได้ยินคำว่า “มีลูกแล้วจะเข้าใจ” กันบ้างมั้ย นั่นเป็นเพราะในบางสิ่งบางอย่างที่พ่อ กับแม่ทำ แล้วเราไม่เข้าใจ ณ ตอนนั้นในหัวเราก็จะมีแต่คำถามว่า ทำไม ทำไม และทำไม
เช่น ขอไปเที่ยวแล้วพ่อ กับแม่ไม่ให้ไป ทั้งที่เราก็ดูแลตัวเองได้แล้ว หรืออยากได้อะไรสักอย่าง แล้วพ่อ กับแม่ไม่ให้ ก็เป็นคำถามว่าทำไมขึ้น มาเหมือนกัน
ซึ่งวันเวลาและประสบการณ์ชีวิต จนถึงวาระได้เป็นพ่อแม่คนเองแล้ว ทุกคำว่าทำไมในหัวของเธอ จะถูกตอบคำถามได้เองอย่างอัตโน มัติเลยล่ะ
4. เสียใจนะ
หลายครั้งที่เราอาจจะร้องไห้เพราะพ่อ กับแม่ รู้สึกน้อยใจ เสียใจ มีอารมณ์โกรธเกรี้ยว กระทืบเท้าปึงปัง ปิดประตูแรงๆ แล้วก็นั่งร้องไห้ใส่พ่อ กับแม่
แต่เธอเชื่อมั้ยว่าในขณะนั้น คนที่ร้องไห้อยู่อีกฝั่งนึงของประตูก็คือพ่อ กับแม่ของเราเองนั่นล่ะ การกระทำของเราในฐานะลูก มีผลต่อความรู้สึกพ่อแม่เป็นอย่างมาก
หลายคนอาจจะคิดว่าชีวิตฉัน มันช่างขื่ นขม พ่อแม่รังแกฉัน แต่บางทีท่านอาจจะเป็นคนที่น้ำตาตกใน มากกว่าเราเป็นร้อยล้านเท่าก็ได้นะ
5. รักพ่อ กับแม่บ้างนะ
ตอนเรามีแฟน เรารู้ดีว่าเรารักแฟน มาก ไม่อยากจะห่าง อยากอยู่ใกล้ๆ ได้ยินคำหวานๆ หยอดหูตลอดเวลา และเราก็หวังให้แฟนรักเราตอบเหมือนกัน
พ่อแม่ก็เหมือนกันนะ ท่านรักเรา ท่านก็หวังอยากให้เรารักท่านเหมือนกัน ไม่จำเป็นหรอ กช่อดอ กไม้ หรือแหวนเพชรเลอค่าใดๆ
แค่เราใส่ใจความรู้สึกพวกท่าน เห็นหัวพวกท่าน พูดจาหวานหู หอมแก้มท่าน บอ กรักท่านบ้าง เท่านั้นก็เกินพอแล้ว
6. ลูกยังเป็นเด็กอยู่เสมอ
ตอนเรายังพูดได้แค่คำว่า อ้อ กับ แอ้ ก็มีเพียงพ่อ กับแม่นี่ล่ะที่เป็นฝ่ายเลี้ยงดูอุ้มชูเรามา แต่พอเข้าสู่วัยรุ่นปุ๊บ เรากลับอยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง
มีเหตุผลในหัวเสมอว่าฉันโตแล้ว พ่อ กับแม่ไม่จำเป็นต้องห่วงแล้ว มีความเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น ยิ่งหาเงินเลี้ยงดูตัวเองได้แล้วยิ่งตีตัวออ กห่าง
เพราะไม่ต้องการให้พ่อแม่มาเป็นกรอบในการใช้ชีวิตให้แล้ว แต่เธอรู้มั้ยว่าในสายตาของพ่อ กับแม่ เรายังเป็นเด็กน้อยที่พูดได้แค่อ้อ กับแอ้เหมือนเดิม
เพราะสุดท้ายแล้ว ต่อให้เราโตแค่ไหน ประสบการณ์ชีวิตก็ยังน้อยกว่าท่านอยู่ดี มีอะไรก็ฟังท่านพูดบ้างเถอะ