ข้อคิดสอนใจ

9 อย่างที่ทำแล้วจะมีความสุขมากขึ้น!

ในชีวิตคนเราจะต้องการอะไรไปมากกว่าการ “ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข” หลายครั้งเราก็แอบໂ ท ษโชคชะตาเมื่อเจอเรื่องร้ า ຢๆ แม้ว่าเราจะไม่สามารถควบคุมสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตของเราได้

แต่หากเรารู้จักเปลี่ยนความคิดของตัวเอง ปรับอะไรนิดๆ หน่อยๆ เราก็จะมีความสุขขึ้นอีกเยอะโดยไม่ต้องอาศัยโชคชะตาเลยนะ ว่าแต่มีอะไรที่เราต้องปรับบ้าง ลองไปดูกันเลยค่ะ

1. จงจำไว้ว่า 1 วัน มีแค่ 24 ชั่ วโมง

นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์มาให้เราแล้วว่า 1 วัน มี 24 ชั่ วโมง ดังนั้นไม่ว่าเราจะรู้สึกสุขหรือเจอเรื่องราวที่ทุกข์ใจขนาดไหน ท้ายที่สุดแล้ว มันก็แค่ 24 ชั่ วโมง เดี๋ยวมันก็ผ่านไป

พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ การกังวลล่ ว งหน้าหรือคิดวิตกอะไรไปก่อนทำให้เราเสียช่วงเวลาที่เราควรจะมีความสุขไปโดยเปล่าประโยชน์แถมยังทำให้เราเครียดจนพาลนึกอะไรไม่ออ กไปอีก

ดังนั้น จงจำไว้ว่า 1 วัน มีแค่ 24 ชั่ วโมง หากวันไหนรู้สึกทุกข์ใจมากจนไม่รู้จะทำยังไงก็แค่เข้านอน เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เป็นวันใหม่แล้ว

2. ปฏิเสธบ้างก็ดีนะ

เราไม่จำเป็นจะต้องไป Say yes กับทุกเรื่อง เรื่องไหนที่มันเหนือบ่ากว่าแรงหรือเราทำไม่ไหวจริงๆ ก็ไม่จำเป็นจะ ต้องตอบตกลง สบายคนอื่นแต่มาลำบากตัวเองทีหลัง

ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เชื่อว่าแทบทุกคนต้องเจอโดยเฉพาะโลกของการทำงาน เมื่อใดที่เราไม่โอเค เรามีสิทธิที่จะปฏิเสธได้ ก็จงฝึกปฏิเสธไว้

เพราะหากเราตอบตกลงทั้งที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะไหวไหมมันเป็นการทำลายความสุขและสร้างความเครียดให้ตัวเองโดยใช่เหตุ แถมผลงานก็ยังออ กมาไม่ดีอีกด้วย

3. อยู่คนเดียวเงียบๆ บ้างก็ดีนะ

สาวๆ คนไหนที่รู้สึกว่ารอบตัวมีคนอยู่มากมายเต็มไปหมดจนไม่มีเวลาให้เหงาบ้าง บางทีการอยู่เงียบๆ คนเดียวเพื่อจัดระเบียบความคิดและสงบจิตสงบใจตัวเอง

เป็นการชาร์ตแบตให้ร่างกายวิธีหนึ่ง ที่จะทำให้เรารู้สึกสงบขึ้น รู้สึกดีขึ้นและสามารถจัดการกับอารมณ์ปัญหาต่างๆ ได้ดีขึ้นด้วย

เพราะเมื่อเราได้ใช้ความคิดกับตัวเองเงียบๆ โดยไม่มีใครมากระตุ้นหรือพูดเบี่ยงเบนความคิดความสนใจเราก็จะทำให้เราสามารถตัดสินใจในสิ่งที่ต้องการและเห ມ าะกับเราได้ดีมากขึ้น

4. ตัดคนที่สร้างความทุกข์ให้คุณออ กจากชีวิต

เป็นปกติที่ชีวิตของเราจะต้องพบเจอ กับคนที่เป็น มลพิ ษชีวิต คนที่มักจะทำให้เราทุกข์ใจอยู่เสมอ ซึ่งอาจจะมาในรูปแบบของเพื่อน คนรัก หรือแม้กระทั่งคนร่วมงาน ลองพิจารณาดูดีๆ ว่าอยู่แล้วได้คุ้มเสียหรือไม่

หากคนๆ นั้นเป็นคนที่สร้างความทุกข์ใจและสร้างความเดือดร้อนให้คุณอยู่แทบจะตลอดเวลาแบบนี้เราอาจจะพิจารณาลดระดับความสัมพันธ์ลงเป็นแค่คนรู้จักแต่ไม่สนิทจะดีกว่า

เพราะถ้าสนิทไปแล้วทำให้เราเครียดและไม่มีความสุข ก็คงต้องทบทวนกันอีกที แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ อย่างเช่นถ้าคนแบบนี้มาในแบบของเพื่อนร่วมงาน

เราก็พยายามแก้ไขที่ความคิดของเรา อย่านำเอาคำพูดของคนเหล่านี้มาเป็นอารมณ์ทำให้เรารู้สึกทุกข์จะดีกว่านะ

5. หยุดทำงานหนักเกินไป ฟังเสียงร่างกายบ้าง

อย่าลืมว่างานไม่ใช่ทุกสิ่งของชีวิต เพราะชีวิตของเรายังประกอบด้วยด้านอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งครอบครัว คนรัก เพื่อนฝูง การเที่ยวพักผ่อน หรือแม้แต่ทำงานอดิเรกที่เราโปรดปราน

เพราะฉะนั้น อย่าเอาตัวเองไปผูกติดกับงานอยู่แทบจะตลอดเวลา อย่าทำงานหนักจนร่างกายป่วยหรือพัง เราต้องหัดฟังเสียงของร่างกายบ้าง

เมื่อใดที่มันเกินไปก็จงหยุดพัก ในโลกนี้ยังมีอะไรให้ทำเยอะแยะเลยนะ งาน มันก็แค่วันละไม่กี่ชั่ วโมงของชีวิตก็เท่านั้นเอง

6. ดูแลตัวเองบ้างเพิ่มความสดชื่น

นานเท่าไหร่แล้วที่่เราไม่ได้ดูแลตัวเองแบบจัดเต็มตั้งแต่หัวจรดเท้า นั่นเพราะเรามัวกำลังยุ่งอยู่กับเรื่องราวต่างๆ รอบกายจนไม่ได้หันกลับมาสนใจตัวเองสักเท่าไหร่

มองดูมือดูเท้าของเราสิว่ามันห ຢ า บกร้าน มากขึ้นแค่ไหน การดูแลตัวเองเป็นการผ่อนคลายอย่างหนึ่งของผญ.เรา ดังนั้นเมื่อเลิกงานแล้วก็จงปล่อยวางความเครียดและเริ่มดูแลตัวเองสักหน่อยหาครีมอาบน้ำกลิ่นหอมๆ

โลชั่นบำรุงผิวให้นุ่มนิ่มบรรจงทาบนผิว สร้างความสดชื่นให้กับตัวเองผ่อนคลายความเครียดและเพิ่มเลเวลความสุขกันค่ะ

7. ฟังเพลงผ่อนคลายสักหน่อย

เสียงเพลงและแนวเพลงที่เราชื่นชอบเป็นสิ่งที่ช่วยผ่อนคลายความรู้สึกตึงเครียดต่างๆ นานาที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี หากคุณรู้สึกว่าวันนี้เครียดเหลือเกิน หาความสุขแทบไม่เจอเลย

ลองเปิดเพลงเบาๆ หลับตาและปล่อยตัวเองและความคิดไปกับบทเพลงโปรด ทิ้งเรื่องราวหนักๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างวันไปให้หมด ความสุขก็อยู่ใกล้ๆ และหาได้ง่ายๆ แค่นี้เอง ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะคะ ว่าแล้วก็เลือ กเพลงโปรดไปฟังกันเถอะ

8. เรื่องบางเรื่องไม่ต้องรู้ก็ได้นะ

เชื่อว่ารอบข้างของทุกต้องจะต้องมีคนที่ชอบเมาท์มอยหรือชอบนินทาเรื่องคนอื่นๆ ซึ่งบางทีก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเราสักเท่าไหร่หรอ ก และบางคนก็ชอบที่จะติดตามชีวิตของคนอื่นตามโลกโซเชียลทั้งๆ

ที่เราก็แทบไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเจ้าของเรื่องเลยแม้แต่น้อย ซึ่งการรับรู้ข้อมูลข่าวສ า รที่ไม่จำเป็นเยอะๆ นี่แหละค่ะที่ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยและไม่มีความสุข

เพราะนำปัญหาของคนอื่น มาขบคิด ไหนจะปัญหาของตัวเองอีก ดังนั้นหากเรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นเราก็ไม่ต้องรับรู้ก็ได้นะ สบายใจกว่าเยอะ

9. เลิกโฟกัสว่าใครจะคิดยังไงกับเรา

บางทีความทุกข์ของเราก็เกิดจากการที่เราเอาความรู้สึกของตัวเราเองไปผูกติดกับความรู้สึกของคนอื่นนั้นแหละ ซึ่งบางครั้งทั้งๆ ที่เรื่องที่เราชอบทำก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนหรือเสียหายอะไร

แต่เรากลับกลัวอยู่ตลอดเวลาว่าคนนั้นหรือคนนี้จะชอบใจมันหรือเปล่า เขาจะคิดกับเราแบบไหน รู้สึกยังไง ซึ่งคนรอบข้างเรามากมายเราไม่สามารถไปเอาใจคนให้ครบได้ทุกคนหรอ กนะ

อย่ามัวแต่เอาใจคนอื่นจนลืมตัวเองล่ะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นสิ่งที่เราทำแทนที่จะเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข กลับไปทำให้คนอื่นสุขแต่ตัวเราทุกข์ซะงั้น

Meko