เวรกรรมที่ทำไว้ต่อพ่อแม่นั้น มีจริง เพราะท่านคือผู้ให้กำเนิดชีวิตของคุณ เราไม่สามารถที่จะเลือ กเกิดได้ ไม่ว่าจะมีหรือจน ท่านก็เลี้ยงดูคุณให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้
บางครั้งความห่วงใยของท่านอาจทำให้คุณรำคาญ แต่ขอให้ย้อนคิดถึงความหวังดีและความรักที่มีว่า ท่านเองก็ทำงานเก็บเงินเลี้ยงดูคุณ
จนสามารถส่งเสียให้ได้เรียนหนังสือ คอยป้อนน้ำ ป้อนข้าวดูแลเวลาที่คุณไม่สบาย เพราะฉะนั้นอย่ารำคาญหรือหงุดหงิดพ่อแม่เลย
1. ไม่โทษพ่อแม่ว่าไร้ความสามารถ
ไม่มีใครที่มีความสามารถสมบูรณ์แบบ หรือเก่งไปซะทุกเรื่องหรอ ก พ่อแม่ก็เช่นกัน พ่อแม่นั้นคือผู้ให้กำเนิดเลี้ยงเราจนเติบใหญ่
ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยกว่าเราจะโตมาได้จนถึงทุกวันนี้ คำพูดที่เราพูดออ กไปนั้น ไม่สามารถย้อนคำพูดนั้นกลับมาได้ จะพูดจะจาอะไรจะต้องคิดก่อนพูดเสมอ อย่าให้เป็นตราบาปในชีวิตคุณเลย
2. ไม่โทษพ่อแม่ว่าจู้จี้จุกจิก
พ่อแม่ล้วน มีประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะรู้ดีไปกว่าพ่อแม่ในการใช้ชีวิต เพราะฉะนั้นฟังท่านซะเถอะ ว่าหาว่าท่านจู้จี้จุกจิกเลย ทุกๆการกระทำหรือ การบอ กกล่าวล้วน มาจากความห่วงใยทั้งนั้น
3. ไม่โทษพ่อแม่ที่ท่านบ่นว่า
คำสอนของพ่อแม่ เราอาจจะมองว่าเป็นคำบ่นว่าที่ทำร้ า ຢจิตใจเรา แต่ทุกๆอย่างที่ท่านทำก็เพื่อต้องการให้เรามีชีวิต
มีอนาคตที่ดี ไม่ต้องทุกข์ยากลำบากเหมือนพ่อแม่ เพราะไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ไม่อยากให้ลูกของตัวเองเจริญก้าวหน้าหรอ ก
4. ไม่โทษพ่อแม่ว่าชักช้า
อย่าพูดว่าตัวท่านชักช้าทำอะไรยืดยาด เพราะความแก่ชรา เราไม่มีทางรู้เลยว่า พ่อแม่ของเรานั้นจะต้องใช้ความรักความอดทน มากเพียงใด ในการสอนเราให้เราเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้
สอนให้เรากินข้าวกินน้ำ อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน ท่านทำเพื่อตัวเรามาตั้งแต่เราเป็นเด็กแบเบาะ หากวันหนึ่งพ่อแม่ของเราชราลง
กำลังที่ท่านเคยมีก็เริ่มเสื่อมถอย โปรดจำไว้ว่า คุณเห็นพ่อแม่ของคุณในวันนี้ ตัวคุณเองก็จะเห็นตัวคุณเองในวันข้างหน้า
5. ไม่โทษพ่อแม่ยามท่านป่วยไข้
ไม่ว่าตัวพ่อแม่ของท่านจะยุ่งแค่ไหน หรือจะต้องนอนดึก ฝนตกแดดออ ก เมื่อเราเจ็บไข้ได้ป่วยพ่อแม่ก็ต้องละทิ้งหน้าที่การงานหรือแบ่งเวลามาดูแลเรา
พาเราไปหาหมอ ดูแลเราให้หายป่วยหายไข้ จะพูดว่าลูกมาก่อนเสมอ ก็ได้ เพราะท่านทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อดูแลลูกได้ วันใดที่พ่อแม่เจ็บป่วย ใยทำไมลูกไม่ดูแล