ใครบ้างล่ะที่จะไม่อยากรวย? เชื่อว่าจุดมุ่งห ມ ายสูงสุดของทุก ๆ คนก็คือ การมีเงินทองใช้อย่างสุขสบายไปตลอดชีวิต ซึ่งเราทุก ๆ คนต่างก็ต้องดิ้นรนทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย
เพื่อไปสู่เป้าห ມ ายสูงสุดในชีวิตให้ได้ แต่มันกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด เพราะการทำงานหนักอย่างเดียว ใช่ว่าเราจะเป็นเศรษฐีได้ แต่ทว่ามีอุปสรรคหลายอย่างที่มาขัดขวางทำให้คุณไม่ได้เป็นเศรษฐีซะที
1. ใช้จ่ายมากกว่ารายได้
หากคุณเป็นคนที่ใช้เงิน มือเติบล่ะก็ บอ กได้เลยว่าไม่ว่าคุณหามาได้เท่าไร เงินก็ไม่พอแน่ ๆ และอย่าว่าแต่เป็นเศรษฐีเลย
แค่เอาตัวเองให้รอดตอนสิ้นเดือนบางครั้งก็แทบจะไม่ไหวแล้ว ดังนั้นคุณควรจะหัน มาออมเงินอย่างจริงจัง และปันส่วนสำหรับการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่งอ กเงยได้
ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าคุณควรจะปันส่วนสำหรับการออมและการลงทุนประมาณ 20% ของเงินเดือน
2. ทำตัวอวดร่ำอวดรวย
หลายคน มักจะคิดว่า ความร่ำรวยนั้นสร้างความประทับใจอย่างมากมายให้กับคนอื่น ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะมีส่วนจริงบ้างในบางสังคม
แต่มันคงไม่คุ้มกันแน่ ๆ หากคุณต้องคอยทำตัวอวดร่ำอวดรวยอยู่ทุกวันทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้มีเงินทองมากมายขนาดนั้น กลับกัน มันยังทำให้คุณเองมีชีวิตอยู่อย่างไม่สบายใจ
เพราะมัวแต่กังวลกับการรักษาภาพลักษณ์ที่ดูร่ำรวยที่ตัวเองสร้างมันขึ้น มาแล้ว ที่แย่ไปกว่านั้น อาจนำมาซึ่งการสร้างหนี้โดยไม่รู้ตัวเพื่อประคับประคองภาพลักษณ์คนรวยเอาไว้อีกด้วย
3. ใช้ก่อนออม ออมเงินตอนปลายเดือน
พอเงินเดือนออ กปุ๊บ ก็เอาไปใช้จ่ายนู่นนี่ปั๊บ แต่ดันไม่กันเงินไว้สำหรับออมเพื่อตัวเองก่อน แบบนี้อาจทำให้ออมเงินไม่ได้ตามเป้าที่ตั้งเอาไว้
ดังนั้น วิธีออมเงินที่ดี คุณควรที่จะหักส่วนเงินออมเอาไว้ทันทีเมื่อเงินเดือนออ ก ที่เหลือ ก็บริหารจัดการเป็นรายจ่ายประจำเดือนไป
อย่าสักแต่ใช้แล้วค่อยออมเมื่อเงินเหลือตอนสิ้นเดือน เพราะพฤติกรรมแบบนี้มักจะทำให้คุณออมได้น้อย หรือออมไม่ได้เลยก็เป็นได้
4. การมีลูก
ข้อนี้ไม่ได้จะบอ กให้คู่รักทั้งหลายห้ามมีลูกนะจ๊ะ เพียงแต่จะบอ กว่าการเลี้ยงลูกคนหนึ่งจะมีต้นทุนสูงมาก ไหนจะค่าน ม ค่าผ้าอ้อม ค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ
ซึ่งก็น่าเสียดายที่เงินจำนวนดังกล่าวคุณสามารถนำไปฝากธนาคารเพื่อสร้างกำไรจากดอ กเบี้ยได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แม้คุณจะมีลูก
แต่ค่าใช้จ่ายสามารถลดลงไปได้บางส่วน หากคุณมีการออมเงินไว้ล่ ว งหน้าและมีวางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ
5. ซื้อบ้านใหญ่เกินไป
บางคนคิดว่าการซื้อบ้านหลังใหญ่คือ การลงทุนที่ดี แต่เปล่าเลย เพราะบ้านหลังใหญ่ก็ต้องตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน
โดยนอ กจากคุณจะต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ค่าเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ มากมายแล้ว ก็ยังมีค่าดูแลรักษาบ้านอีก ไหนจะต้องผ่อนส่งระยะยาว
มีภาระไม่จบไม่สิ้น ดังนั้น คุณควรจะซื้อบ้านขนาดที่พอเห ມ าะกับครอบครัว และพอ กับงบประมาณของคุณดีกว่า
6. อัพเดทเทรนด์ใหม่ตลอดเวลา
สมัยนี้วงจรของสินค้าสั้นลงเรื่อย ๆ เนื่องจากการแข่งขันทางธุรกิจที่สูงขึ้น ทำให้สินค้าต่าง ๆ ต้องคอยออ กผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ มาเรื่อย ๆ ล่อตาล่อใจคนชอบอัพเดทเทรนด์ใหม่ได้เป็นอย่างดี
ทั้งรถยนต์ สมาร์ทโฟนต่าง ๆ ซึ่งถ้าเราคอยอัพเดทเทรนด์ใหม่ที่ออ กมาใหม่นี้ตลอดเวลาแล้ว เราคงไม่มีเงินเก็บอย่างแน่นอน ดังนั้นเห่อตามกระแสมากไปก็ไม่ดีแน่ ๆ ซื้อแต่ที่จำเป็น และเปลี่ยนเมื่อมันเสื่อมประสิทธิภาพจริง ๆ ดีที่สุด
7. ให้คนอื่นจัดการวางแผนการเงินของคุณ
การได้รับคำแนะนำจากบุคคลอื่น ๆ ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่คุณควรที่จะกระตือรือร้นในการวางแผนการเงินของคุณมากกว่า เพราะนั่นเป็นเงินของคุณเอง
คุณควรจะมีอำนาจตัดสินใจสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เชื่อเถอะว่าคุณไม่สามารถไว้วางใจใครก็ตามให้มาดูแลเงินของคุณได้หรอ ก นอ กจากตัวคุณเอง
8. ละเลยดูแลสุขภาพของตัวเอง
หลายคนอาจจะหักโหมทำงานจนละเลยดูแลสุขภาพ เวลาเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลทีก็เสียเงินแพงเหลือเกิน แล้วแบบนี้จะไปเก็บเงินได้อย่างไร
ในเมื่อทำงานได้เงิน มากเท่าไรก็ต้องเอามารักษาตัวเองแบบนี้ ดังนั้น หัน มาดูแลตัวเองซะบ้างดีกว่า ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออ กกำลังกาย
และตรวจสุขภาพประจำปี เมื่อแข็งแรงคุณก็ไม่ต้องหาหมอให้เสียเงินเสียทอง หลักการง่าย ๆ แค่นี้ แต่ช่วยคุณประหยัดเงินได้ตั้งเยอะเลยล่ะ
9. การหย่าร้าง
สำหรับหลาย ๆ คน การแต่งงานสามารถสร้างความมั่งคั่งได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับการหย่าร้างกลับตรงข้ามโดยสิ้นเชิงเลยล่ะ ถ้าหากจบกันด้วยดีก็แล้วไป แต่ถ้าหากจบไม่สวยล่ะก็
มันสามารถทำลายความมั่งคั่งของคุณที่สร้างมาตลอดชีวิตได้ในพริบตา เพราะไหนคุณจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เสียค่าทนาย ถ้าแพ้คดีก็ต้องเสียเงินให้อีกฝ่ายหนึ่ง แถมยังมีภาระจ่ายค่าส่งเสียเลี้ยงดูลูกอีก ดังนั้น ก่อนจะหย่าก็ขอให้คิดให้ดีซะก่อน
10. พฤติกรรมอ บ า ຢ มุ ขทั้งหลาย
ลด ละ เลิก พฤติกรรมที่บ่อนทำลายความมั่งคั่งของคุณ อย่างเช่น สู บ บุ ห รี่ ดื่มเ ห ล้ า เล่นการพ นั น เพราะถ้าคุณเลิกได้ละก็ คุณจะมีเงินเก็บมากจนไม่น่าเชื่อเลยล่ะ
แถมตอนนี้ภาษีเ ห ล้ า-บุ ห รี่ก็ขึ้นเอา ๆ ถ้าขื นคุณยังประพฤติปฏิบัติเช่นนี้ต่อไปละก็ นอ กจากต้องเสียเงินไปกับสิ่งไร้ສ า ระโดยใช่เหตุแล้ว ยังต้องเสียเงินรักษาตัวเองในอนาคตอีกด้วย