ในแต่ละเดือน เรามีร ายได้เข้ามาแว้บเดียวห ายเกลี้ยง ไปไหนก็ไม่รู้ จนผมเริ่มมานั่งคิด ถึงสาเหตุ ที่ไม่เคยเก็บเงินได้สักที เพราะเราใช้ กระเป๋าเดียวครอบจักรว าล คือ ได้มาแค่ไหน รวมเงินไว้ใช้กระเป๋าเดียว จ่ายทุกสิ่งไป
วันนี้เราควรตั้งสติ เปลี่ยนจาก กระเป๋าเดียวจ่ายทุกสิ่ง เป็น แยกกระเป๋าใช้จ่าย ให้เห็นเงินออม
กระเป๋าที่ใช้ – ไว้ใช้จ่ายอย่างเดียว
เพราะกระเป๋าส่วนนี้ สำหรับใช้จริงๆ ค่าใช้จ่ายหลักๆ เช่น เค ลียร์ห นี้รายเดือน, ใช้จ่ายส่วนตัว,
และเรื่องสำคัญในครอบครัว ฉะนั้น แยกไว้ที่กระเป๋านี้ ทั้งหมด เคล็ดลั บสำคัญของ กระเป๋าใช้นั้น
คือ การจด รายรับ-รายจ่าย แรกเริ่มเขียนไว้ก่อนเลยว่า ตอนนี้มีรายการหนี้ สินอะไรเท่าไหร่
รวมแล้วเป็นจำนวนเท่าไหร่ จะทำให้รู้ว่าจะสร้า งหนี้ เพิ่มได้อีกหรือไม่ จะได้ไม่มีหนี้ รั ด ค อ
แล้วหากเงินหมดเร็ว กว่าที่คิดไว้นั้น เราก็เปิดบัญชีดูย้อนหลังปุ๊ บ เราจะรู้เลยว่า เดือนนี้เราหมดเงินไปกับอะไรบ้าง
เพื่อที่เดือนหน้าเรา จะได้สามารถจัดการเงินของเราได้ ให้มันดีกว่าเดือนนี้ไง
กระเป๋าเก็บ – เก็บออม อย่ างเดียว
กระเป๋านี้ ผมตั้งใจ จะไม่หยิบมาใช้ จะออมเพื่อเป้าห ມ ายที่ผมตั้งไว้ เช่น แต่ งเมียเข้าบ้าน
หรือใช้เวลาเจ็ บป่ วย ง่ายๆ เลย เริ่มจากวันที่เงินเดือนออ ก จะหั ก 10 % ของเงินเดือน
เช่น เงินเดือน 13,000 ผมจะเก็บ 1,300 บาท ไว้กับกระเป๋าเก็บ ไม่เอามาปน กับกระเป๋าใช้
ส่วนการเก็บ แนะนำให้เปลี่ยนจาก หยอดกระปุก เป็นการเปิดบัญ ชีออมทรั พย์แทน เงินกระเป๋าเก็บ
อยู่ห่างมือดี ที่สุด แล้วยังได้ด อ กเบี้ ยด้วย คำนวณง่ายๆ เก็บเดือนละ 1,300 บาท ครบปีมีเงินเก็บ ตั้ง 15,600 เลยนะ
และที่สำคัญ ยังได้ความรู้สึกเป็นเจ้าห นี้ธนาค ารอีกด้วย ปรับใช้กันดูแต่ที่แน่ๆ มันจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น