คนที่ไม่มีเงินเดือน มาก มีน้อย เงินเดือน 15,000 งี้ และพิ่งเริ่มทำงานบอ กได้เลยว่า หากตั้งหลักกับการทำงานได้ดี
ใช้สมาธิกับงาน ดูว่าเราชอบงาน หรือถนัดไหม ถ้าตั้งลำได้แล้วฝึกฝน พัฒนาทักษะ
ให้ทำงานให้เก่งได้เร็ว และครบถ้วน เราจะได้ขยับขึ้นไป ในกลุ่ มเงินเดือนที่สูง
1.ควรมีเงินออม และให้พ่อให้แม่
คนที่ต้องให้เงินพ่อแม่ใช้ ส่วน มากแล้วจะหักให้ไปก่อน แต่เจ้าเงินออมนะสิครับ
หลาย ๆคนกลับเอาไว้ทีหลัง มีเหลือค่อยเก็บงี้ ซึ่งบอ กได้เลยว่า ว่ามันจะไม่เหลือแน่ๆ
ถ้าต้องการจะออมเงินจริง เงินเดือน ออ กปุ๊บ หยอดกระปุกเลยครับ
2.ในเรื่องของ ค่าใช้จ่ายประจำ
ตรงนี้บอ กได้เลย ว่าคน กทม. ที่อยู่กับครอบครัวนั้น มันต่างกันกับคน ตจว.
เช่าห้อง ต่างกันฟ้ากับเหว คนอยู่หอเดือนหนึ่ง ก็ประมาณ 5,000 ไปแล้ว
ค่าใช้จ่ายนี้หากลดได้ แนะนำให้ลดไปเลยนะ เช่น พวกค่าหอ ให้หารูมเมทมา
แ ช ร์ ถ้าได้รูมเมทมา เ เ ช ร์ ครึ่งหนึ่งเราจะมีเงินไว้ เก็บหรือไว้ใช้อีกนะ
อะไรประหยัดได้ก็ประหยัดมัน ส่วนค่าเดินทางก็เอามาอยู่หมวดเดียวกัน
เพราะตรงนี้มันควรคิดคำนวณด้วยกัน เช่นหากเรายอมจ่ายค่าหอ แพงหน่อย
เพื่อให้อยู่ใกล้ที่ทำงาน มันจะได้ประหยัดค่าเดินทาง มองรวมๆแล้ว ก็ค่าใช้พอๆ กัน
3.ค่าน้ำ ค่าข้าว
ก็คือพย า ย า มคุมค่าใช้จ่ายรายวันให้อยู่ในงบ ว่าเงินที่เหลือถัดไป
จากก้อนนี้ คือ งบช้อป และเที่ยว ถ้าประหยัดตรงนี้ได้จะมีเงินเหลือ
ให้ช้อป กินดื่ มมากขึ้น คนเงินเดือนเริ่มแนะนำว่าให้ห่างไกล สิ่งเหล่านี้เอาไว้นะ
เพราะอย่างพวก กาแฟ ชาน มไข่ มุก แก้วละ 40 บาท ไปจนถึง 140 บาท
ราค าพวกนี้ เอาไว้รวยก่อนแล้วกัน ค่อยกิน กินฟ รีในออฟฟิศไปก่อนนะ เมื่อเรากินกาแฟ
แก้วละ 50 เป็นประจำทุกๆ วัน ใน 20 วัน จะเป็นเงิน 1,000 บาทเชียวนะ
คือมัน มีค่าเท่ากับปาร์ตี้ 1 ครั้งได้เลย และอีกวิธีที่ใช้แก้ง่วงแทนกาแฟได้
หม ากฝรั่งไง 1 กล่อง 10 บาท กินได้ราวๆ 2 วันเลย เฉลี่ยวันละ 5 บาท
แก้ง่วงได้ อาหารกลางวัน มื้อแพ ง ๆ หากไปกินกับพี่ๆ ที่ทำงาน ให้พี่ๆ มันจ่ายไปนะ ฮ่าๆ
ไม่เลี้ยงวันหลังไม่ต้องไปกิน เพราะเราเงินเดื อน 15,000 พี่ๆ เขาก็มีเงิน มากกว่าเรา
เพราะการใช้ชีวิต ไม่เหมือนกันอยู่แล้วกินแพง ๆ แบบเขาไม่ได้ มื้อละ 100 -200 ขึ้นไปเนี่ยไม่ไหว
4.เงินกองทุ น สำรองเลี้ยงชีพ
หากบริษัทมี แนะนำให้ทุก ๆ คนเลยนะ เลือ กให้เขาหั กสูงสุด แต่มันอาจจะ3% หรือ 5% ก็ได้
แต่ทว่า สิ่งที่สำคัญคือเขาหั กไปบริษัทจะสมทบให้อีกไงในจำนวนเท่ากัน
เช่น หักไป 3 % บริษัทจะสมทบ ให้อีก 3 % ของเงินเดือนเรา แต่หากให้หัก 5% เราก็ได้อีก
5% คือยิ่งให้หักมาก เรายิ่งได้เงิน มากไง ส่วนนี้เป็นส่วนเงินออม
ที่ควรให้หั กไป นอ กจากได้สมทบเยอะ และมันช่วยเราออมเงินได้ด้วย
และส่วนประกันสั งคมเนี่ยไม่ต้องพูดถึง โดนหั กอยู่แล้วไง