รู้ไหมว่า การดื่มกาแฟทุกวัน เป็นปัญหาที่คอยกวนใจการเก็บเงินของหลายคนได้แบบไม่น่าเชื่อเลย เพราะลองคิดดูถ้าเราดื่มกาแฟแบรนด์ดังที่ขายกันอยู่แก้วละประมาณ 120 บาท ทุกวัน แสดงว่าใน 1 ปี ต้องเสียเงินไปถึง 43,800 บาท
หรือเกือบครึ่งแสนเลยทีเดียว ดังนั้น วิธีแก้ง่ายๆ อาจจะลองเปลี่ยน มาดื่มกาแฟ ที่มีราคาถูกลง เช่น แก้วละประมาณ 30 บาท ก็จะช่วยให้เรามีเงินเก็บเพิ่มถึงปีละ 32,850 บาท หรือถ้าหัน มาชงเองที่มีราคาแค่ซองละประมาณ 5 บาท ยิ่งช่วยประหยัดได้อีกถึงปีละ 41,975 บาทกันเลย
2. หาแหล่งพักเงินที่ดีกว่าฝากออมทรัพย์
วิธีเก็บเงินด้วยการฝากบัญชีออมทรัพย์เพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอและให้ผลตอบแทนที่น้อยเกินไป เพราะฉะนั้น การนำเงินไปกระจายล ง ทุ น ในสินทรัพย์อื่นๆ ด้วย จึงเป็นทางเลือ กที่น่าสนใจกว่า เช่น ซื้ อ กองทุนรวม ที่ให้ผลตอบแทนราว 5-15% ซึ่งผลตอบแทนที่เราได้รับ
ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายการล ง ทุ น ของกองทุนนั้นๆ ตามความ เสี่ ย ง ที่เราสามารถยอมรับได้ คือ ยิ่งเสี่ ย งมาก ผลตอบแทนที่มีโอ กาสได้ก็ยิ่งมากนั่นเองการเลือ กล ง ทุ น ในกองทุนรวม นอ กจากจะมีข้อดีตรงที่เราไม่ต้องมาคอยจัดการเอง
เพราะมีมืออาชีพ มาบริหารจัดการความเสี่ ย งให้เรียบร้อย ในกองทุนบางประเภท เช่น กองทุน RMF หรือ LTF ยังให้สิทธิประโยชน์สามารถนำเงินไป ล ด ห ย่ อ น ภ า ษี ได้ด้วย จึงเห ม าะอย่างยิ่งสำหรับใคร ที่ฐานเงินเดือนถึง เ ก ณ ฑ์ ต้องเสียภ า ษี
3. เก็บเงินหยอดกระปุกวันละ 275 บาท
ถ้าอย ากมีเงิน แสนภายใน 1 ปี คิดง่ายๆ เลยคือเราต้องเก็บเงินให้ได้อย่างน้อยวันละ 275 บาท ซึ่งวิธีง่ายๆ อย่างหยอดเงินใส่กระปุกนี่แหละ ที่เห็นผลได้ดีเลย แต่ต้องอาศัยความมีวินัยในตัวเอง หมั่นออมเป็นประจำทุกวัน ถ้าทำได้แบบนี้
ครบปีเมื่อไหร่แคะกระปุกออ กมา ได้เป็นเศรษฐีนอนนับเงินแสนแน่นอน
4. จำกัดการซื้ อ เสื้อผ้า-เครื่องสำอางไว้หน่อย
ข้อนี้ บอ กสาวๆ เลยว่า เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง กระเป๋า และอีกส ารพัดสินค้าแฟชั่นเป็นตัวดูดเงินชั้นดีเลย ยิ่งเดี๋ยวนี้มีช้อปออนไลน์ ยิ่งซื้ อ ยิ่งจ่ายง่ายเข้าไปอีก เคยนับกันบ้างไหมว่า ในแต่ละเดือนเราใช้เงินช้อปปิ้งกับสินค้าเหล่านี้ไปมากแค่ไหน
บางคนถึงจะซื้ อ สินค้าทีละน้อย แต่บ่อยๆ รวมๆ กันเข้าคุณอาจจะตกใจกับ จำนวนเงินที่จ่ายไปหลายพัน หรือเกือบหมื่นต่อเดือนได้เหมือนกันนะ
สำหรับใครที่ขี้เกี ย จ ต้องมาคอยหยอดกระปุกทุกวัน อาจจะเลือ กเก็บเป็นรายเดือน หักเงินเดือนที่ได้เข้าบัญชีฝากประจำแบบอัตโน มัติไปเลย เป็นเหมือนการบั ง คั บ ตัวเองให้มีวินัยออมเงินที่ได้ผลดีเชียวล่ะ
โดยเงินขั้นต่ำที่ออมควรอยู่ที่ 8,300 บาทต่อเดือน เพราะเมื่อรวมกับด อ ก เบี้ยของบัญชีฝากประจำที่ได้รับราว 1-2.5% จะทำให้เมื่อฝากครบปี เราจะมีเงินเก็บครบแสนได้ โดยการออมเงินผ่านบัญชีฝากประจำ เราสามารถเลือ กได้ทั้งแบบที่ไม่ต้องฝากเท่าๆ กันทุกเดือน สามารถเติมเงินในแต่ละเดือนได้เรื่อยๆ
ซึ่งปกติแล้วจะเป็นการฝากประจำ 3 เดือน, 6 เดือน และ 12 เดือน แต่ด อ ก เบี้ยที่ได้รับจะโดนหักภาษี 15% ส่วนใครที่คิดว่าตัวเองมีวินัยมากพอ ก็อาจจะเลือ กฝากประจำแบบ ป ล อ ด ภ า ษี ที่ได้ด อ ก เบี้ยสูงกว่า ซึ่งจะมีระยะเวลาฝาก 24 เดือนขึ้นไป
รวมถึงต้องฝากจำนวนเงินเท่าๆ กันทุกเดือนด้วย ใครสะดวกแบบไหนก็เลือ กได้ตามความเห ม าะสมของตัวเองเลย
6. เลิก บุ ห รี่
การสู บ บุ ห รี่ นอ กจากจะทำร้ าย สุขภ าพ ยังทำล ายเงินในกระเป๋าเราอีกด้วย เพราะเต็มไปด้วยค่าใช้จ่ายมากมาย เอาง่ายๆ สมมติเฉลี่ยแล้วเราสู บ บุ ห รี่ สัปดาห์ละ 4 ซอง ราคาซองละ 80 บาท นั่นห ม ายถึงคิดเป็นค่าใช้จ่ายอย่างน้อยๆ ปีละ 15,360 บาทเลยนะ
ซึ่งบางคนอาจจะสูบมากกว่านี้ ก็คูณเป็นตัวเงินที่มากเข้าไปอีก ไม่หมดแค่นั้น การสู บ บุ ห รี่ เป็นประจำ ยังตามมาด้วย โร ค ภั ย ไข้ เจ็ บต่างๆ ซึ่งบอ กเลยว่าถ้าเกิ ด เจ็ บ ป่ ว ย หรือเป็นอะไรขึ้น มาจากการสู บ บุ ห รี่
ค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษ าพย าบาลและดูแลตัวเอง
ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลย เสียเป็นหลักแสนหลักล้าน ก็มีให้เห็น มาแล้ว เพราะฉะนั้น ใครที่สู บ บุ ห รี่ อยู่ถ้าลดได้ ก็ขอให้ลดเถอะ หรือหั ก ดิบเลิกสู บ ไปเลยก็ได้ คงช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าได้อีกมากเลยล่ะ
ถ้าอย ากมีเงินเก็บเพิ่มไวๆ แน่นอนว่างาน ประจำอย่างเดียวอาจไม่พอ ควรต้องมองหาช่องทางสร้างรายได้อื่นๆ ด้วย อย่างหารายได้เสริมจากสิ่งที่ตัวเองถนัด ไม่ว่าจะเป็นงานฝีมือ รับแปลงาน เขียนบทความ ถ่ายรูป ปลูกต้นไม้ขาย
หรือขับรถส่งอาห าร เป็นต้น เพราะเป็นการเพิ่มรายได้โดยที่ไม่ต้องควักเงินทุนหรือ กลัวเ จ๊ ง
8. ทำอาห ารกินเอง
อีกวิธีง่ายๆ ที่ช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าได้ดีแบบไม่น่าเชื่อ ก็คือ การทำอาห ารกินเอง หรือ กินข้าวที่บ้านให้มากขึ้น เพราะรู้ไหมว่าหากเราเลือ กไปกินอาห ารตามร้านข้างนอ ก อย่างน้อยก็มื้อละ 40-100 บาทแล้ว คิดดูถ้ากิน 3 มื้อ รวมเป็นเงินวันละ 120-300 บาทเลยนะ
ต่างกันเยอะเลยกับการเลือ กทำอาห ารกินเอง รวมทั้งวันอาจจะเสียเงินไม่ถึง 100 บาทด้วยซ้ำ ประหยัดได้วันละเป็นร้อยเลย ถ้าทำได้ครบปีนี่ประหยัดได้กว่า 30,000 บาท รวมถึงคนที่ชอบไปกินร้านหรูๆ ทุกสัปดาห์ด้วย
เพราะไปทีนึงก็หมดเงินไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทแน่นอน สมมติไปทุกสุดสัปดาห์ เดือนนึงนี่จ่ายไปไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 บาท ซึ่งถ้าลดได้หัน มาทำเองที่บ้าน ปีนึงประหยัดเงินได้เกือบ 50,000 บาทเชียวนะ
9. งดเที่ยวสังสรรค์บ้าง
หากใคร เป็นคนติดเที่ยว ติดเพื่อน วันหยุดสุดสัปดาห์ทีไรต้องออ กไปสังสรรค์ให้ได้ละก็ ขอบอ กเลยว่าหากงดได้ ก็ทำเถอะ เพราะจะช่วยให้ปีนึงเราเหลือเงินเก็บในบัญชีอย่างน้อยๆ ปีละกว่า 24,000 บาทกันเลยนะ
เพราะหากเที่ยวแค่สัปดาห์ละครั้ง ค่าใช้จ่ายต่อครั้งไม่ต่ำกว่า 500 บาทแน่นอน
10. หัน มาเที่ยวในประเทศ แทนต่างประเทศ
ใจนึงก็อย ากเที่ยว แต่อีกใจ ก็อย ากเก็บเงิน ยิ่งเวลาเห็นเพื่อนๆ โพสต์รูปไปเที่ยวต่างประเทศด้วยแล้วก็ยิ่งอย ากไปแบบเขาบ้าง แบบนี้จะทำยังไงดี เพราะถ้าเลือ กไปเที่ยวก็ไม่มีเงินเก็บ ถ้าเจอปัญหาแบบนี้
อาจจะลองหัน มาเที่ยว ในประเทศแทนก็ดีเหมือนกันนะ เพราะการเที่ยวในประเทศช่วยเราประหยัดเงินได้เยอะเลย แถมสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ในเมืองไทยก็มีให้เลือ กมากมาย ไม่แพ้เมืองนอ กเช่นกัน ไว้เก็บเงินได้เยอะๆ แล้วค่อยไปเที่ยวต่างประเทศดูบ้างก็ยังไม่สาย
สินค้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต นาฬิกา หูฟัง ราคาไม่ใช่ถูกๆ แต่ละชิ้นไม่ต่ำกว่าหลักหมื่น ทำให้เราเสียเงินโดยใช่เหตุ ทั้งที่บางทีไม่จำเป็น ต้องใช้รุ่นที่มีออปชั่น มากขนาดนั้นก็ได้
แต่หลายคนก็เลือ กที่จะซื้ อ ไว้ก่อน เพียงเพราะเห็นว่าเป็นรุ่นออ กใหม่ บางทีของเก่ายังผ่ อน ไม่หมดเลย เห็นของใหม่มาก็ซื้ อ ใหม่อีกแล้ว หนี้ก็ทบหนี้เข้าไปอีก