1. เลือ กอาชีพที่ “ใช่”
“เจ้าของเงินล้าน” อาจมีอาชีพหลากหลายแต่สำคัญมันต้องเป็นอาชีพที่ “ใช่” สำหรับเขาเท่านั้น จริงอยู่ที่ผู้ประกอบการ มีโอ กาสเป็น “เจ้าของเงินล้าน” เร็วกว่าคนทั่วไป 4 เท่า
แต่กระนั้นก็ไม่พบว่ามีธุรกิจประเภทหนึ่งประเภทใดที่จะประสบความสำเร็จมากกว่า ประเภทอื่นๆ สรุปว่า ความร่ำรวยมาจากลักษณะนิสัย ของพวกเขา มากกว่าประเภทธุรกิจที่เลือ กทำ
ซึ่งข้อนี้ต่างจาก ที่พวกเราชอบทำกัน คือ เลือ กอาชีพที่นิยม มากกว่าอาชีพที่ใช่ อย่างเช่น ช่วงร้านกาแฟบูม ก็แห่กัน เปิดร้านกาแฟจนเต็มไปหมด ในที่สุดหลายๆ ร้านก็ต้องพับกระเป๋ากลับบ้านขาดทุนกันไป
2. มุ่งสร้างตัวด้วยสองมือเปล่า ไม่สนใจมรดกหรือ การสนับสนุนจากพ่อแม่
80% ของ “เจ้าของเงินล้าน” สร้างเงินล้านด้วยมือเขาเองล้วนๆ น้อยคนที่จะพี่งพาพ่อแม่ หรือเฝ้ารอมรดก
ยิ่งเริ่มต้นจากมือเปล่าพวกเขาก็ยิ่งแกร่งเจ้าของเงินล้านส่วนใหญ่ สามารถยืนได้บนลำแข้งของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย
3. ทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ไปกับการวางแผนสร้างตัว
“เจ้าของเงินล้าน” มักใช้เวลาเฉลี่ย วันละ 8 ชั่ วโมง กับการวางแผนชีวิต ขณะที่คนทั่วไปใช้เวลาคิดแต่เรื่องหาความสุข หลายคนเมื่อพูดถึงเรื่องการวางแผนการเงิน มักจะบอ กว่าไม่มีเวลาทั้งที่จริงๆ แล้วใช้เวลาน้อยมาก ไม่กี่นาทีในแต่ละวันแต่กลับมีเวลาเดินตลาดเพื่อใช้จ่ายเงิน วันละกว่า ชั่ ว โมง
คนทั่วไป มองการเริ่มธุรกิจส่วนตัว ว่าเป็นความ เ สี่ ย ง แต่คนรวย (และคนที่มีโอ กาสรวย) จะมองเป็นเส้นทางสู่ฐานะที่มั่งคั่ง – คนทั่วไปมองเงิน มองด้วยสมการเส้นตรง เช่น สมมติทำงาน ได้ ชั่ วโมงละ $Xถ้ายอมทำงานเยอะขึ้น ก็จะได้เงิน มากขึ้น
แม้แต่ผู้ที่มีการศึกษาดี ก็คิดว่าการเรียน MBA จะช่วยให้ได้เงิน มากขึ้น (ก็จริง แต่ก็เป็นการมองแบบเส้นตรง เช่นกันคือให้เวลากับการเรียน เพื่อสุดท้าย จะเอาวุฒิไปต่อรองรายได้ให้มากขึ้น) … ส่วนคนรวยจะมองที่ไอเดียโดยเฉพาะไอเดียที่จะช่วยแก้ปัญหา (และตอบโจทย์ความต้องการ) ของผู้คนได้และทำเงิน
จากเรื่องเหล่านี้ … แต่ถึงกระนั้น คนรวยก็ไม่ได้กระโดดเข้าใส่ไอเดีย อย่างไม่ลืมหูลืมหา เขาจะศึกษาความ เ สี่ ย ง อย่างดีก่อนที่จะลงมือทำ
4. ให้ความสำคัญกับอิสรภาพทางการเงิน มากกว่าสถานะทางสังคม“
“เจ้าของเงินล้าน” ตัวจริงชอบใช้ชีวิต แบบชนชั้นกลาง อยู่ในบ้านขนาดพอสบาย ขับรถยี่ห้อทั่วๆ ไปที่ใช้งานได้ดีพวกเขาไม่ชอบแข่งขันเอาหน้ากับใคร
จึงไม่ต้องมีหนี้ก้อนใหญ่ไว้คอยฉุดดึง ชีวิตวันก่อนได้ไปร่วมบรรยายเรื่อง การวางแผนการเงินพบว่าสาเหตุหนึ่งของการมีหนี้เยอะ
คือ การชอบเปรียบเทียบกับชาวบ้านเห็นข้างบ้าน มีอะไรแล้ว ต้องมีมากกว่า ดีกว่า ไม่รู้แข่งขันไปได้ประโยชน์อะไร
เพราะสุดท้ายคนที่ h a p p y คือ คนขายของ ส่วนคนที่ทุกข์ คือ ตัวเราเอง
5. ใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล
คนส่วนใหญ่ ถึงทำงานหนัก กระเป๋าหนักแต่มักใช้จ่ายหนักด้วย จึงรวยไม่สำเร็จ ตรงกันข้ามกับ”เจ้าของเงินล้าน” ที่ทั้งทำงานหนัก กระเป๋าหนัก แต่คิดหนักด้วยเมื่อใช้จ่ายเปรียบคนทั่วไป เป็นนักฟุตบอลกองหน้าที่มุ่งแต่จะทำเกม จนเสียประตู
แต่คนรวยพวกนี้ให้ความสำคัญกับการ รั ก ษ า ประตูเท่า ๆ กับการทำเกม คนทั่วไปใช้ชีวิตเกินฐานะที่แท้จริง แต่คนรวยใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะ – ถึงจะมีคนรวยมาก ๆ บางราย ที่แสดงการใช้ชีวิตอย่างสุดหรู
แต่คนรวยโดยทั่วไปใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะที่แท้จริง …คนรวยส่วนใหญ่ (แต่ไม่ใช่ทั้งหมด – เพราะเราจะเห็นแต่ชีวิตของคนรวย บางส่วนที่เขาแสดง ให้เห็นต่อสาธารณะ ส่วนคนรวยที่รวยเงียบ ๆ เราก็จะไม่มีโอ กาสได้เห็น แต่ไม่ใช่ไม่มีอยู่) จะไม่ไหลไปตามกระแสวูบวาบ
พวกเขาต้องการอิสระทางการเงินและจะไม่เป็น ท า ส ของสิ่งต่างๆ พยายามทำตัวเอง เป็นนักลงทุนสามารถทำได้แม้จะเป็นพนักงานประจำ แต่ต้องฉลาดในการเลือ กลงทุน ตอนนี้ มีหลายคนที่ทำงานประจำไปด้วย แต่ลงทุนในหุ้นไปด้วย
ซึ่งสามารถสร้างรายได้เสริมที่ดีแต่การลงทุน ทุกอย่างมีความ เ สี่ ย ง หมด ดังนั้น ก่อนที่จะลงทุนไม่ว่า จะเป็นการลงทุนประเภทใดต้องศึกษาให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้นจากที่จะได้เงินงอ กเงยขึ้น มา เงินนั้นอาจจะหายวับไปกับตาก็ได้