เขาว่ากันว่า มีการกำหนด ‘อีกครึ่งหนึ่งของชีวิต’ หรือคนที่จะเข้ามาเติมเต็มชีวิตของเราไว้แล้ว ก่อนที่เราจะเกิดเสียอีก โดยคนๆนั้นจะมีเพียงคนเดียว ซึ่งก็คือคนที่จะมาเป็น คู่แท้ ของคุณนั่นเอง
ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะคิดว่าเนื้อคู่นั้นคือคนที่เข้ากับเราได้เป็นอย่างดี อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข โดยคู่แท้คนนี้จะเป็นคนที่เข้ามาช่วยเติมเต็มชีวิตของคุณ
เนื้อคู่จะเติมเต็มกันและกัน คนๆหนึ่งจะไม่สามารถทำเป้าห ม ายในชีวิตให้สำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว คนทุกคนต่างต้องการใครสักคนที่จะมาช่วยให้เรากลายเป็นคนที่ดีขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าต้องไม่ใช่แค่อยู่เคียงข้างกันในยามที่มีความสุขเท่านั้น
ความสัมพันธ์ที่มีคู่แท้ที่ทั้งซื่อสั ต ย์และจริงใจให้แก่กันนั้น จะช่วยให้คุณกลายเป็นคนที่ดีกว่าเดิม คุณจะต้องออ กมาจาก Comfort Zone และไปให้ไกลเกินลิมิตของตัวคุณเอง เพื่อที่คุณจะได้พบตัวตนที่ดีกว่า
แม้ว่าเราจะคิดว่าเนื้อคู่คือคนสองคนที่เกิดมาเพื่อคู่กันโดนเฉพาะ แต่ความสัมพันธ์แบบนี้มักจะเป็นเรื่องยากในตอนแรก ลองคิดถึงจิ๊กซอว์ 2 ชิ้นที่พยามจะเติมเต็มกันและกัน
บางครั้งมันก็ดูเหมือนว่าจะไม่พอดีกัน แต่อีกไม่นานหรอ ก หลังจากได้ลองหมุน เปลี่ยน หรือ กลับด้าน คุณจะรู้สึกได้ว่าคุณกับเขาช่างเข้ากันได้ดีเสียเหลือเกิน มันคือความรู้สึกลึกๆข้างในว่า คนนี้แหละคือคนที่ใช่
บางครั้งเนื้อคู่ก็ไม่ได้เปิดเผยตัวให้เราเห็นอย่างชัดเจน คุณอาจจะไม่ได้ดึงดูดกันและกันจากรูปลักษณ์ภายนอ กเมื่อเจอ กันครั้งแรก แต่มันจะเหมือน มีแรงอะไรบางอย่างที่จะผลักดันคุณ และบอ กกับคุณว่าคนนี้แหละคือคนที่ใช่สำหรับคุณ
บางทีคุณอาจจะเคยทำลิสต์เอาไว้ว่าสเป็คของคุณเป็นแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นคนที่ตัวสูง ผมดำ หรือจะผมบลอนด์ มีซิกส์แพ็ค หรือไม่แน่นะ
คุณอาจจะเป็นเหมือนตลกชื่อดัง อย่างเจอร์รี่ ไซน์เฟลด์ (จากซีรี่ส์เรื่อง Seinfeld) ก็ได้ ที่รู้ว่าคู่เดทของเขาไม่ใช่คนที่ใช่หลังจากที่เธอเพียงแค่กินถั่วทีละเม็ด! (แทนที่จะกินทีเดียวหลายๆเม็ดน่ะ)
ดังนั้น ถ้าคุณกล้าพอที่จะเปลี่ยนความคิดจากคนในฝันของคุณ แล้วเปิดตา เปิดใจ คุณอาจจะพบความเป็นไปได้ที่ไม่คาดคิด ที่ได้เป็นคนโชคดีที่ได้หาคู่แท้จนเจอ
คุณรู้ว่าคุณได้พบเนื้อคู่ของคุณ เมื่อ…
คุณแค่รู้ว่าคนนี้แหละคือคนที่ใช่
บางสิ่งในตัวคุณบอ กว่าคนๆนี้แหละคือคนที่ใช่สำหรับคุณ มันเหมือนกับมีแรงลึกลับอะไรบางอย่างที่มาผลักให้คุณปล่อยวางจากสิ่งต่างๆที่คุณคาดหวังไว้ เพื่อให้คนๆนี้เข้ามาเติมเต็มชีวิตของคุณ
คุณอาจเคยเดินสวนกัน มาก่อน
เนื้อคู่จะเคยพบกัน มาก่อน ซึ่งคุณสองคนอาจจะยังไม่ได้เชื่อมถึงกัน ณ ขณะนั้น แต่คุณจะเคยอยู่ในสถานที่และเวลาเดียวกัน โดยก่อนที่ฉันและสามีจะเจอ กัน
เราเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเราเคยอยู่บ้านตรงข้ามกัน และยังทำงานในออฟฟิศที่อยู่ตรงข้ามกันอีกต่างหาก แต่เราก็ยังไม่เคยเจอ กัน จนกว่ามันจะถึงเวลาที่ใช่
คุณสองคนพบกันในช่วงเวลาที่เห ม าะสม
คนแต่ละคนจะมีความพร้อมที่จะเชื่อมต่อจิตใจกับใครสักคน อย่างเช่นฉันกับสามี ที่แม้ว่าจะอยู่ใกล้กัน มากมาเป็นเวลาหลายปี แต่เราก็ยังไม่เคยเจอ กัน จนกว่ามันจะถึงเวลาที่ใช่สำหรับทั้งคู่
คุณจึงจำเป็นต้องเตรียมจิตใจของคุณให้พร้อมที่จะเชื่อมต่อ กับเนื้อคู่ของคุณ นั่นห ม ายถึงคุณอาจจะต้องผ่านความสัมพันธ์ที่มันไม่เวิร์ค หรือคุณอาจจะไม่พร้อมที่จะเลิกคิดถึงคนที่คิดไว้ แต่เมื่อคุณเจอคู่แท้ ช่วงจังหวะเวลาคือทุกสิ่งที่สำคัญ
ชั่ วเวลาหนึ่งที่มีแต่ความเงียบเป็นเวลาที่คุณสองคนรู้สึกสงบสุขไปด้วยกัน
การที่ได้อยู่ด้วยกันเงียบๆกันสองคนช่างเป็นเวลาที่สบายใจเสียเหลือเกิน เหมือนกับได้ห่มผ้าห่มนุ่มนิ่มในคืนอันหนาวเหน็บ ไม่ว่าคุณจะอ่ า นหนังสืออยู่ในห้องเดียวกัน นั่งอยู่ในรถคันเดียวกัน ต่างเป็นช่วงเวลาอัน มีค่าและแสนสงบสุขที่คุณกับเขาใช้เวลาร่วมกัน
คุณสามารถได้ยินความคิดของกันและกัน
เป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ที่คุณกับเนื้อคู่ของคุณนั้นสามารถรู้สึกและได้ยินถึงความคิดของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรออ กมาเลยก็ตาม
คุณรู้สึกถึงความเจ็บปวดของกันและกัน
คุณทั้งสองคนต่างเข้าใจความรู้สึกของกันและกัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา และคุณรู้จักกันดีมากขนาดเพียงแค่ถ้าเขาเดินเข้ามาในห้อง คุณจะรู้ได้เลยว่าวันนี้ของเขาเป็นอย่างไร
คุณรู้ซึ้งถึงความรู้สึกของกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นความเศร้า กังวล หรือเครียด อีกทั้งคุณยังแชร์ความสุขแก่กันและกันอีกด้วย
ทั้งสองคนต่างรู้ถึงข้อเสียของกันและรู้ว่าในข้อเสียนั้น มีข้อดีอย่างไร
เชื่อสิว่าในข้อเสียนั้นยังมีข้อดีของมันอยู่ ลักษณะนิสัยของคนเราต่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มันจึงเป็นสิ่งที่อีกคนต้องหาข้อดีของมันให้เจอ ถึงแม้ว่าบางครั้งอาจดูไม่มีอะไรดีเลยก็ตาม
โดยข้อเสียของเขาย่อมต้องมีข้อดีอยู่ เช่น คนที่หัวดื้อ ซึ่งมีความมั่นใจในตัวเองสูง ก็จะเก่งในเรื่องการตัดสินใจ ส่วนคนที่เจ้ากี้เจ้าการนั้น ก็มักจะจ่ายค่าน้ำค่าไฟได้ตรงเวลาอยู่เสมอ
คุณสองคน มีเป้าห ม ายในชีวิตเหมือนกัน
คุณทั้งสองเปรียบได้เหมือนกับกำลังอ่ า นหนังสือหน้าเดียวกัน ทั้งค่านิยม จริยธรรม และเป้าห ม ายเดียวกัน คุณอาจจะมีวิธีที่จะไปถึงจุดห ม ายแตกต่างกัน แต่คุณทั้งสองต่างต้องการผลลัพธ์เดียวกัน
คุณไม่กลัวที่จะพูดคุยกันถึงปัญหาหรือเรื่องต่างๆ
การพูดคุยสนทนากันบางครั้งก็เป็นสิ่งท้าทาย การแสดงออ กถึงความกังวลและความพยายามที่ต้องเลือ กอย่างใดอย่างหนึ่งนั้นช่างเป็นความรู้สึกที่น่าอึดอัดใจ
เนื้อคู่ของคุณรู้ว่าหากเขาสามารถเข้าใจและร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับคุณได้ คุณมั่นใจได้เลยว่าจะสามารถผ่านเรื่องราวต่างๆนั้นไปได้ด้วยดี
เขาจะไม่มากวนใจคุณ หากคุณต้องการที่จะอยู่คนเดียว
ไม่ว่าจะเป็นการไปเล่นเทนนิสอาทิตย์ละ 3 ครั้ง หรือจะเป็น girls’ night out คุณทั้งสองคนต่างเข้าใจกันและเคารพถึงความส่วนตัวของกันและกัน
คุณไม่เคยต้องรู้สึกหึงหรืออิจฉากันและกัน
สาวสวยน่ารักที่ออฟฟิศหรือจะหนุ่มเทรนเนอร์ส่วนตัวสุดหล่อ ก็ไม่สามารถมาทำให้ความสัมพันธ์ของคุณสองคนต้องมีปัญหาได้ คุณต่างรู้สึกไม่ต้องกังวลและมีความมั่นใจว่าคุณคือคนๆเดียวของเขา
คุณเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างของกันและกัน
คุณรู้ว่าคนเราต้องมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน บ่อยครั้งที่แม้แต่เนื้อคู่ก็อาจมีความคิดที่ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง บางครั้งเรื่องเหล่านี้ก็เหมือนจะเป็นสิ่งที่ท้าทาย
นั่นอาจเป็นเหตุการณ์ที่คุณโดนบังคับให้สนับสนุนแฟนของคุณ ทั้งๆที่คุณก็มีความคิดของตัวเอง แต่แทนที่คุณจะคิดเพียงแต่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
มัน มีความรู้สึกลึกๆที่เคารพความคิดเห็นของอีกคนหนึ่ง โดยคุณสามารถรับฟังและให้เกียรติสิ่งที่คุณทั้งสองเห็นไม่ตรงกันได้
คุณจะไม่ยกเอาเรื่องการหย่าร้างมาเป็นคำขู่
แน่นอนว่าคุณอาจรู้สึกโกรธ คนหลายคน มักไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ า ยคนที่คุณรัก แต่คนที่เป็นเนื้อคู่กันนั้นจะไม่เป็นคนที่ใจร้ า ย ขี้น้อยใจ หรือชอบทำร้ า ยจิตใจคนข้างๆ
คุณเป็นฝ่ายให้เพราะคุณอยากให้คนรักของคุณมีความสุข
บ่อยครั้งที่การให้นั้นสามารถทำให้เสียสุขภาพได้ แถมยังต้องพึ่งพากันและกัน หรืออาจถึงขั้นทำให้ความสัมพันธ์ของคุณแย่ลง แต่คู่แท้จะมอบให้ด้วยความจริงใจ โดยมีจุดประสงค์เดียวคืออยากทำให้คนรักมีความสุข
คุณรู้วิธีที่จะขอโ ท ษ
มันไม่ง่ายเลย ไม่ใช่แค่พูดคำว่า “ขอโ ท ษ” หรือเพียงแค่ยอมรับว่าคุณทำอะไรบางอย่างที่ทำให้คนที่คุณรักเจ็บปวด เรื่องก็จบ เนื้อคู่ของกันและกันจะตระหนักถึงสิ่งที่ทำหรือคำพูดบางคำที่อาจทำให้คนรักเสียใจ
แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่าในความคิดของเขามันควรที่ต้องทำอย่างนั้น แต่ถ้ามันทำให้คนรักของเขาเจ็บปวด เขาจะรู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาทำ
คุณจะแต่งงานด้วยกันอีกครั้ง
คุณรู้ว่าคนนี้คือคนเดียวและคนที่ใช่สำหรับคุณ แม้ว่าจะผ่านเรื่องราวร้ า ยๆอะไรมาก็ตาม คุณก็จะเลือ กแต่งงานกับเขาอีกครั้ง คุณรู้สึกรักและภาคภูมิใจในตัวเขา
คุณเติมเต็มซึ่งกันและกัน
ใช่ คนรักของคุณจะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในชีวิตของคุณ ไม่มีใครเพอร์เฟคไปกว่านี้ เราทุกคนต่างมีจุดแข็งและจุดอ่อน ซึ่งคู่แท้คนนั้นจะเข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้
ก็เหมือนกับหยินและหยางที่สามารถประสานกันได้อย่างลงตัว คนหนึ่งอาจเป็นคนที่เปิดเผย ในขณะที่อีกคนกลับเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัว ดังนั้นเนื้อคู่จึงมักจะมีนิสัยตรงกันข้ามกันเพื่อที่จะดึงดูดอีกคนเพื่อเข้ามาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปของกันและกัน
การได้อยู่ในอ้อมกอดของกันและกันสามารถกำจัดความเครียดและความกังวลต่างๆไปได้หมดสิ้น
ไม่มีที่ไหนที่จะลงเอยวันแย่ๆของคุณได้ดีเท่ากับในอ้อมแขนของคนที่คุณรัก หากวันนี้เป็นวันที่ยากลำบากที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นการทະ เ ล า ະกับหัวหน้าหรือตอนที่คุณพลาดไปขึ้นรถไฟไม่ทัน
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นจะหายไปในทันทีหลังจากที่คุณได้กอดกับคนรักของคุณ มันเหมือน มีความรู้สึกอบอุ่นขึ้น มาในหัวใจ และความสงบข้างในลึกๆที่คุณสามารถรู้สึกได้
โดยไม่ต้องเอ่ยปากพูดอะไรเลย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือความเงียบ และความสุขที่เกิดขึ้นในจิตใจของคนสองคน สองจิตใจที่เกิดขึ้นเพื่อ กันและกันตลอดไป