ข้อคิดสอนใจ

5 วิธีอยากมีเงินเก็บ

บทเรียนของการออมมาแชร์เป็นความรู้ให้กับทุกๆคนที่สนใจ อยากมีเงินเก็บ และอยากจะเริ่มต้นเก็บออมกันครับ

1. ต้องมีเป้าห ม าย

อันดับแรกเราต้องมีเป้าห ม ายก่อนครับ คิดไว้เลยว่าเราจะเก็บออมวันละเท่าไหร่ เดือนละเท่าไหร่ สิ้นปีตัดยอดที่เท่าไหร่ ให้คิดแบบเป็นสมการ ครับ A+B=C , A คือ วิธีการ B คือ ระยะเวลา C คือ เป้าห ม ายที่เราวางไว้ อย่างเช่น

(เก็บออม,ทำงานพิเศษ,ประหยัด) + 12 เดือน = 100,000 บาท

แต่ก่อนอื่นเราต้องกำหนดเป้าห ม ายของเราให้ชัดเจนก่อนครับ อย่างเช่น ผมอยากจะมีเงินเก็บ 1 แสนบาทในหนึ่งปี เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว

เราก็มาคิดหาวิธีกันครับว่า ทำอย่างไรเราจะถึงจะได้มัน มา เราต้องทำอะไรบ้าง แล้ววิธีการมันก็จะผุดขึ้น มาในหัวของเราเอง แล้วเราก็ลงมือทำเลยครับ อย่ารอช้า

2. วางแผนการเงิน

เป็นคำพูดที่ได้ยินกันแล้วหลายคนอาจจะเ บื่ อหน่าย วางแผนการเงินน่ะหรอจะทำไปทำไมกัน ? เงินหมดก็หาใหม่ได้ง่ายจะต า ย แค่มีงานทำแค่นี้ก็ถือว่าชีวิตสบายแล้ว

เดี๋ยวก่อนครับท่าน ที่บอ กว่ามีงานทำแล้วชีวิตสบายนี่จริงหรือเปล่า อยากให้มาลองคิดทบทวนดูดีดีครับ ทำงานใช้แรงหรือไม่ ?

แล้วแต่ละวันต้องเจอแรงกดดันจากที่ทำงาน ทั้งเงินเดือนไม่พอใช้ แถมยังถูกหักภาษี ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่ ?

แล้วยิ่งถ้าของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูง เราจะดำรงชีวิตอยู่อย่างไร ถ้าเราไม่มีเบาะคอยเซฟตัวเอง ดังนั้นจงเริ่มเลยครับ เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน

อยากให้ลองทำบัญชีรายรับรายจ่ายสักนิด แล้วคุณจะรู้ว่า ในและเดือนนั้น พฤติกรรมการใช้เงินคุณเป็นเช่นไร

ใช้จ่ายมากเกินความจำเป็นหรือไม่ ถ้าใช่ก็ขอให้ลองตัดค่าใช้จ่ายส่วนนั้นออ กไป แล้วคุณจะพบว่า เงินในกระเป่านั้น มีพอใช้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน

3. จัดสรรรายจ่ายออ กเป็นสัดส่วน

(จะรู้ว่าต้องแบ่งส่วนไหนบ้างก็ต้องเมื่อทำบัญชีรายรับรายจ่าย) แบ่งเลยครับว่า จะออมเดือนละเท่าไหร่ แล้วส่วนที่เหลือ ก็ค่อยไปแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตประจำวันหรือค่าใช้จ่ายสำรองยามฉุกเฉิน

และที่สำคัญคุณควรแบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้เพื่อลงทุนบ้าง เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณเก็บออมได้มากขึ้นแล้ว คุณยังสามารถนำเงินออมในส่วนนี้ไปต่อยอดให้เงินเพิ่มเงินขึ้น มาได้

ด้วยวิธีการที่หลากหลายมากขึ้น พอถึงตอนนั้น ถ้าคุณสามารถทำให้มันเป็นระบบได้แล้ว คุณก็จะมีรายได้เข้ามาจากหลายทาง และสามารถเก็บออม,มีเงินทุนได้มากขึ้น แต่ก่อนที่จะถึงจุดนั้น วันนี้คุณต้องเริ่มออมให้ได้ก่อนครับ

4. เก็บแบบรวบรัด !

หากคุณได้รับส่วนลด,เงินโบนัส หรือรายได้พิเศษอื่นๆ ให้คุณทำการเก็บออมไว้ก่อนเลยครับ ให้รางวัลกับตัวเองเสมอ เพราะถ้าเราไม่มีเงินออมเพื่ออนาคตเสียแล้ว

ในยามที่ฉุกเฉินจะมีสักกี่ทางที่เราจะหันหน้าไปพึ่งหรือขอความช่วยเหลือ ไม่มีหรอ กครับ ถ้ามีก็ยากพอสมควร หนำซ้ำบางที อาจจะทำให้เกิดหนี้

เนื่องจากในคราวจำเป็นที่จะต้องใช้นั้น กลับไม่มีเงินสำรองเหลืออยู่เลย เพราะเอาเงินส่วนใหญ่ไปในจ่ายในสิ่งที่ต้องการ และหาความสุขให้กับตัวเองหมดแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าสุขใดเล่าจะเท่าสุขใจที่มีเงินออม

5. อย่าทำตัวเหมือนโอ่งก้นรั่ว

หรือเติมเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ เหมือนน้ำที่รั่วออ กแม้จะเติมเข้าไปมากมายเท่าไหร่ก็ตาม เป็นเรื่องยากครับที่พยายามยั้บยั้งช่างใจไม่ให้ห ล งมัวเมากับกิเลสที่มีอยู่รอบตัวมากมาย

ทั้งเรื่องของหน้าตาทางสังคม การมีรสนิยมที่ดี ชอบใช้ของแพงก็อาจจะดีในแง่ของคุณภาพ แต่ถ้าซื้อแบบที่ไม่ใช่เรื่องจำเป็นต้องใช้

แบบนี้มันก็เป็นเรื่องฟุ่มเฟือยโดยใช่เหตุครับ ดังนั้น แล้วเราก็ต้องรู้จักประมาณตนของตัวเองด้วยครับว่า เรามีมากมายจนเหลือ กินเหลือใช้พอที่จะซื้ออะไรได้ตามใจหรือไม่

ถ้าไม่ก็ต้องกลับมาคิดใหม่แล้วล่ะครับว่า ถ้ามีแต่ใช้แบบไม่รู้จักพอ มีความอยากมีความต้องการอยู่เรื่อยๆ เราคงไม่มีวันที่จะมีเงินออม อนาคตทางการเงินนั้นก็คงไม่ได้สวยงามเท่าไหร่

การเก็บหอมรอมริบไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับจิตใจเราต่างหากล่ะ เข็มแข็งพอหรือเปล่า ถ้าวันนี้ยอมแพ้ให้กับความต้องการโดยที่ไม่มีการวางแผนหรือ กำหนดเป้าห ม าย

อย่าว่าแต่จะออมเงินเลยครับ แค่ค่าใช้จ่ายเดือนต่อเดือนยังยากเลย ฉะนั้นแล้วฝากให้ใครที่สนใจอยากจะเริ่มออมเงินกลับไปคิดทบทวนกันดู เพื่ออนาคตและเพื่อตัวเราเองในวันข้างหน้าครับ

Meko