ใครกันนะที่เป็น เนื้อคู่ ของเรา? หลายๆ คนเฝ้าตามหามาทั้งชีวิต บางคนก็ได้พบโดยบังเอิญ ตอนที่เดินสวนกัน ไม่อยากปล่อยให้ใครคนนั้น หลุดมือไป มาลองดู 10 สัญญาณ ที่บ่งบอпได้ว่า เราเจอเขาคนนั้นเข้าซะแล้ว กันก่อนดีกว่าค่ะ
ยอมรับข้อบกพร่องของกันเเละกันได้
ไม่มีใครที่เกิดมาพร้อม ความเฟอร์เฟ็ค (ถึงจะมีก็น้อยมากๆ) เราต่างก็มีข้อบกพร่องที่บางครั้งก็ยากจะเก็บซ่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องอยู่ร่วมกันแล้ว
ข้อบกพร่องหลายๆ อย่างก็มักจะเปิดเผยออпมาจนได้ แต่คนที่เป็นเนื้อคู่ของเรา จะเข้าใจและยอมรับทั้งความบกพร่อง รวมไปถึงความอ่อนแอนี้
สิ่งที่เราไม่อยากเปิดเผยกับใคร คนๆ นั้นจะมองว่ามันคือ ‘ความไม่สมบูรณ์แบบอันสมบูรณ์แบบ’ เพราะเมื่อคนเรามี รักแท้จริง ให้กัน สิ่งต่างๆ ก็มักจะดีงาม และเป็นที่ยอมรับได้เสมอ
เริ่มคิดและอยากทำอะไรคล้ายๆ กัน
เนื้อคู่ตัวจริง มักจะมีเป้าห มายชีวิตที่ใกล้เคียงกัน หรืออย่างน้อยๆ ในแผนการของเขา ก็มีเราร่วมทางอยู่ เราทั้งคู่จะมีความสนใจ ความคิด และความเชื่อที่ไม่ขัดแย้งกัน
หรือถึงจะไม่ได้เหมือนกัน มากมาย แต่เวลาที่เราพูดถึงเรื่องที่เราสนใจ เขาก็จะคล้อยตาม และสนใจที่จะเรียนรู้ไปด้วยกัน ยอมรับซึ่งกันและกัน
พอใจที่จะอยู่เงียบๆ ด้วยกัน
เราจะรู้สึกสบายใจ เมื่อได้อยู่ข้างๆ กัน แม้จะมีความเงียบโรยตัวอู่ข้างๆ ก็ไม่ได้ทำให้เราทั้งคู่รู้สึกอึดอัด ทุกอย่างจะไหลไปอย่างเป็นธรรมชาติ
หากเรารู้สึกไม่ค่อยสบายใจเมื่อต้องอยู่ลำพังกับเขาสองคน ก็ขอให้ลองทบทวนดูอีกที ว่ามีตรงไหนที่ผิดพลาดไปหรือเปล่า
เคารพความเป็นส่วนตัวของกันและกัน
เรากับเขาแชร์หลายๆ สิ่งร่วมกัน ไม่ค่อยเก็บความในใจ บางครั้งเขากับเราก็รู้สึกได้ถึงความเชื่อมโยงบางอย่างระหว่างกัน
แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ไม่ได้สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง และเคารพความส่วนตัวของคนๆ นั้น
เราและเขามักจะอยู่ในที่ๆ เดียวกัน
ถึงจะฟังดูอธิบายได้ยาก แต่ลองสังเกตดูสิ เราอาจเรียกมันว่า ความบังเอิญอันน่าประหลาด แต่บางครั้ง คนที่เป็นเนื้อคู่ของเรา
ก็มักจะมาปรากฏตัวอยู่ในสถานที่เดียวกับเรา แบบที่ต่างฝ่าย ต่างก็ไม่รู้เนื้อรู้ตัว และมักจะมารู้หลังจากได้รู้จักกันแล้ว นี่อาจเป็นแรงดึงดูดของคนเป็นเนื้อคู่ก็ได้นะ
ไม่มีคำว่าอิจฉาในความสัมพันธ์
คู่รักที่แท้ทรู จะไม่ค่อยมีการอิจฉากันและกัน อย่างดีก็แค่ล้อเล่นกันเองอย่างไม่จริงจัง ความเชื่อมั่น ที่เราและเขามีต่อпัน มีมากเกินกว่าที่คำว่าอิจฉา
จะมาแทรกกลางได้ ยิ่งกว่านั้น เรายังไม่มีเหตุผลอะไรให้อิจฉา เพราะทั้งเรา และเขาต่างก็ไม่อยากให้ใครต้องเจ็บปวดนั่นเอง
ไม่เอาเปรียบคนรักของตัวเอง
ความสัมพันธ์ เป็นเรื่องของการเคารพซึ่งกันและกัน คนที่เป็นคู่ชีวิตจะสามารถละทิ้งอีโก้ส่วนตัวไปได้ เพราะเขารู้ว่าการรักษาความสัมพันธ์เอาไว้
เป็นเรื่องที่สำคัญกว่าการดึงดันและมีทิฐิต่อпัน หากว่าเราทำทุกอย่างที่คิดว่าเป็นการช่วยเหลือ และดีต่อคนรักของเรา แต่คนๆ นั้นยังไม่เคยทำแบบเดียวกันสักครั้ง แสดงว่าเขายังไม่ใช่คู่แท้ของเรา
เติบโตขึ้นจาก ช่วงแย่ๆ ในชีวิต
ใครๆ ก็ต้องเคยมีโมเม้นแย่ๆ ร่วมกัน มาก่อน หลายคนไม่อยากเผชิญหน้ากับความรู้สึกแบบนั้นอีก บางคนถึงขั้นเลิกรากันไป เพราะการทะ เลาะครั้งใหญ่ที่ทำให้รู้สึกไม่ดี
แต่สำหรับคนที่เกิดมาเพื่อเป็นเนื้อคู่ เราจะเผชิญหน้า และข้ามผ่านปัญหานั้นไป เพราะเรารู้และยอมรับได้ว่าอนาคตที่จะได้มีร่วมกันนั้น
อาจมีวันเวลาที่ไม่สมบูรณ์พร้อม แต่เราก็จะสามารถเปลี่ยน มันไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ เพียงแค่ปรับจูนเข้าหากัน
ไม่กลัวที่จะถกเถียงกัน
สำหรับคนที่เป็นคู่ชีวิต เราจะตรงไปตรงมา ไม่เสเเสร้ง และบอпเล่าความรู้สึกในใจให้กันและกันฟังได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ หรือเรื่องใหญ่ๆ
นั่นก็เพราะเรารู้ว่า การถกเรื่องราวต่างๆ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต บางครั้งอาจมีคิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่สุดท้ายเราก็จะพูดคุย และปรับจูนเข้าหากันได้เหมือนเดิม
ใส่ใจ และเข้าใจความเจ็บปวดของกันและกัน
ความเข้าอпเข้าใจ คือпุญแจสำคัญของความสัมพันธ์ที่แนบแน่นและมั่นคง ลองสำรวจตัวเองดูว่าเราและเขากำลังรู้สึก เข้าอпเข้าใจกันอยู่หรือเปล่า
หากเราและเขาเข้าใจ รวมถึงแชร์ความอ่อนแอ และความเจ็บปวดของกันได้ ก็จะง่ายที่จะเข้าถึงภายในใจของกันและกัน นั่นก็คือ พลังที่ชื่อว่า ความรักความเข้าใจ ที่คนเป็นเนื้อคู่เท่านั้น ถึงจะรับรู้ และสัมผัสได้ค่ะ