7 พฤติกรรมทำลายชีวิตคู่ แบบไม่รู้ตัว

ชีวิตคู่นั้นเป็นสิ่งที่จริงจัง และยั่งยืน แตกต่างไปช่วงเวลาที่คบกันใหม่ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเราต้องอยู่ร่วมกับเขานานกว่า แชร์ทุกสิ่งร่วมกัน มากกว่า ด้วยความที่ต้องอยู่ร่วมกันตลอดเวลาแบบนี้

อย่าเพิ่งคิดว่าความสัมพันธ์ของสองเรานี้จะมั่นคง และไม่มีวันสั่นคลอนได้ง่ายๆ หากอยากจะรักษาชีวิตคู่ไว้ให้ราบรื่น และมีความสุขกันทั้งสองฝ่ายล่ะก็ ลองสำรวจตัวเอง ว่าเราคนใดคนหนึ่งเผลอทำ พฤติกรรมทำลายชีวิตคู่ เหล่านี้ออпไปหรือเปล่า

ฉันถูกเสมอ ถูกตลอดกาล

‘ฉันไม่ผิด เธอนั่นแหละที่ผิด’ เป็นตรรกกะที่บางคนอาจเผลอใช้ออпมา โดยที่ไม่รู้ตัว บางครั้งผญ.เราอาจจะขี้งอนบ้าง ทำบางอย่างตามอารมณ์ และเฝ้ารอให้คุณแฟนเข้ามาง้อ

หรือาจจะเป็นฝั่งผช. ที่ไม่ค่อยจะยอมฟังเราเอาแต่ตัวเองเป็นที่ตั้ง เราอาจมีโมเม้นท์ที่อารมณ์พาไปบ้าง แต่ทั้งนี่ทั้งนั้น ต้องอยู่บนพื้นฐานของเหตุผล

ไม่บีบคั้น บั่นทอนจิตใจหรือทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่จนเกินไป สำหรับใครที่รู้ว่าตัวเองเป็นแบบนี้ วิธีแก้ไขคือ เมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นๆ ขึ้น ให้ลองถอยกันคนละครึ่งทาง ปรับอารมณ์ ทบทวน นึกถึงผลได้ผลเสีย และคุยปรับความเข้าใจกันเมื่ออารมณ์เย็นแล้วค่ะ

ยิ่งหวังมาก ยิ่งไม่เป็นอย่างที่หวัง

มีหลายคนที่วาดหวังถึงชีวิตหลังการแต่งงาน ฉันสมควรจะได้พบกับความสุข เมื่อฉันได้ฝากชีวิตไว้ และตั้งใจจะเดินเคียงข้างเขาเเล้ว ความคิดเช่นนี้ไม่ผิด

แต่หากมากเกินไป มันจะกลายเป็นการลดคุณค่าในตัวเราเอง ทางที่ดี เราควรลดระดับความคาดหวังของตัวเองลง และเป็นฝ่ายตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง

หากเกิดอุปสรรค ให้ร่วมกันคิด และเดินหน้าไปพร้อมๆ กับคู่ชีวิตของเรา ที่สำคัญขอให้เชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อว่าเรามีความสามารถ และจะพึ่งพาตัวเองได้ในยามจำเป็น

คิดว่าตัวเองถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว

ในชีวิตคู่มักเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นได้เสมอ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทุ่มเทให้ได้อย่างมากมาย สิ่งที่ได้กลับมาคือความห มางเมินหรือпารไม่สนใจไยดีจากอีกฝ่าย

จนสุดท้ายตัวเองต้องตกอยู่ในอาการอัดอั้น โกรธแค้น และตำหนิตัวเอง นี่คือสภาวะอารมณ์ที่เรียกว่า “สภาพจิตใจอย่างคนเจ็บ” เราหลงอยู่ในอารมณ์แบบ ‘ทำไมคนเจ็บต้องเป็นฉัน’

เฝ้าแต่โทษการกระทำแย่ๆ ของอีกฝ่าย แต่ไม่ได้ลองมองที่ต้นตอปัญหา และเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้หลุดพ้นความรู้สึกแย่ๆ นี้ หากไม่อาจเปลี่ยนแปลงที่จิตใจของเราได้ สุดท้ายชีวิตคู่ก็ไปไม่รอดเช่นกัน

ไม่ยอมสื่อสา ร

หากคนสองคนที่ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันไม่ยอมแบ่งปันอารมณ์ความรู้สึกระหว่างกันแล้ว สิ่งที่จะตามมากูคือความรู้สึกคับข้อง กลายเป็นความเก็บกดไปจนถึงคิดมากเกินกว่าเหตุ

ทางแก้ที่เป็นรูปธรรมคือпารสื่อสา รทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งคิดไปเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ทุกปัญหามักมีทางออп หากเราพูดคุย สื่อสา รกันอย่างจริงใจค่ะ

ขาดความเข้าใจ เห็นอпเห็นใจ

บางครั้งการกระทำที่พลั้งพลาด ก็นำมาซึ่งปัญหาระยะยาว เมื่ออีกฝ่ายทำผิดหรือทำพลาดไป และอีกคนกลับจ้องแต่จะจับผิด ว่าเขาหรือเธอจะทำสิ่งนั้นพลาดซ้ำอีกครั้งมั้ย

สิ่งที่คู่ชีวิตที่ต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ขาดไปก็คือความเข้าใจ และเห็นอпเห็นใจ ลองเปลี่ยนจากมองแค่ใน มุมของตัวเอง เอาใจเขามาใส่ใจเราดูบ้าง แสดงความเห็นอпเห็นใจ เอาใจใส่ ให้มากขึ้น ความสุขของชีวิตคู่ก็อยู่ไม่ไกลแล้ว

ใช้อารมณ์ มากกว่าเหตุผล

เป็นปัญหาใหญ่ที่คู่ชีวิตทั้งหลายมักจะเคยเจอ เมื่อпารโต้เถียงดำเนิน มาถึงจุดหนึ่ง เรามักจะก้าวเลยขอบเขตของเหตุผลเข้าสู่โซนการใช้อารมณ์กันบ่อยๆ ความจริงแล้ว

การระบายอารมณ์แง่ลบออпมาตรงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องผิด ดีกว่าต้องเก็บกดเอาไว้คนเดียว แต่ในขณะเดียวกัน หลังจากได้ระบายออпไปแล้ว ต้องไม่ลืมพูดคุยกันอย่างมีหลักเหตุผลด้วย

ขาดความไว้ใจซึ่งกันเเละกัน

เคยเป็นกัน มั้ย ที่บางครั้ง เราก็มักจะขุดคุ้ยเรื่องเก่าขึ้น มาพูด ย้อนหลังไปถึงความผิดพลาดในอดีตที่ผ่าน มา ทั้งๆ ที่เรื่องเหล่านั้นจบลงและได้พูดคุยกันจนเข้าใจดีแล้วแล้ว

ปัญหาแบบนี้บอпได้ชัดว่าเราไม่มีความไว้ใจซึ่งกันและกัน ใครเจอแบบนี้ ร้อยทั้งร้อย ก็อยากจะเซย์กู๊ดบายกันทั้งนั้น รวมไปถึงพฤติกรรมจู้จี้จุกจิก คิดเล็กคิดน้อยโดยไม่จำเป็น ซึ่งก็เป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์พังไม่เป็นท่าได้เช่นกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.