จริง ๆ แล้วในทางโหราศาสตร์ คนคนหนึ่งสามารถมีเนื้อคู่ได้หลายคน มีคนที่คิดว่าเนื้อคู่คือคนที่จะต้องคบหากันเป็นแฟน ได้แต่งงาน และอยู่กินกันไปจนแก่เฒ่า
แต่เปล่าเลยค่ะ… ต่อให้เป็นคู่กันก็มีสิทธิ์เลิกรากันได้ ด้วยผลบุญและผลกรรมที่กระทำร่วมกัน มาทั้งในอดีตและปัจจุบัน
ซึ่งเนื้อคู่นั้น มันก็มีหลายแบบ ทั้งที่ดีและส่งเสริมกัน และแบบที่ไม่ดี ส่งผลร้ า ยต่อกัน แต่ก็ยังเลิกกันไม่ได้ ในครั้งนี้เราจึงอยากจะมาขยายความให้เข้าใจกันว่า “คู่ครอง มีกี่แบบ”
จะได้เข้าใจ และใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท… จริง ๆ ก็คืออยากให้รักตัวเองที่สุด เวลามีคนรัก อย่าทุ่มทั้งหมดใจ จนสูญเสียความเป็นตัวเองไปซะล่ะ
1. คู่อุปถัมภ์
คู่อุปถัมภ์ คือคู่ที่พึ่งพาดูแลกันไปตลอด บางคู่อาจไม่ได้ถึงขั้น มีพิธีแต่งงานกันเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ได้อยู่กินเป็นสามีภรรยา และครองคู่กันจนแก่เฒ่า
แต่ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็จะให้ความช่วยเหลือกันเสมอ สำหรับคู่แบบนี้ มีความเชื่อกันว่าในอดีตเคยเกื้อกูลต่อกัน
อาจรักกันแบบพี่น้อง หรืออาจเคยเป็นญาติสนิทกัน มาก่อน จึงได้กลับมาพานพบและช่วยเหลือกันอีกในปัจจุบัน
บางทีก็แอบนึกถึงคนที่เคยเป็นแฟน เป็นคนรักกัน มาก่อน พอเลิกกันก็ยังเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้องที่ดีต่อกันเนอะ
2.คู่บุญบารมี
เป็นคู่ที่ดูยิ่งใหญ่มาก “คู่บุญบารมี” คือคู่ที่สองดวงชะตาต่างส่งเสริมกัน เพราะในอดีตอาจเคยเจอความลำบากยากเข็ญ
และร่วมฝ่าฟันความทุกข์ยากนั้น มาด้วยกัน หรือเคยสร้างบุญสร้างกุศลมาร่วมกัน จนกระทั่งเมื่อได้กลับมาเจอกันในชาติภพปัจจุบัน
และเมื่อได้อยู่ด้วยกัน ก็ช่วยกันทำมาหากิน ต่างส่งเสริมกัน เพื่อยกฐานะของกันและกันให้ดียิ่งขึ้น คู่ในลักษณะนี้จะมีดวงส่งเสริมกันให้พากันเจริญก้าวหน้า
ด้วยความเชื่อที่ว่า เคยทำบุญหรือมีวาสนาต่อกัน มาก่อน จึงได้กลับมาพบและรักกันด้วยแรงบุญจากอดีต
เป็นคู่ที่ไม่หวือหวา แต่ก็รักกันยาว ๆ ค่ะ โดยที่ต่างฝ่ายก็จะชักนำอีกฝ่ายให้ยึดมั่นในความดีกันไปเสมอ
3.คู่สร้างคู่สม
“คู่สร้างคู่สม”ดูเหมือนจะคล้าย ๆ กับคู่บุญบารมีจากข้อที่แล้ว ที่ต่างเคยสร้างบุญกุศลร่วมกัน มา สำหรับคู่สร้างคู่สมนั้น เมื่ออยู่ด้วยกันก็จะมีความเย็นใจ อิ่มใจ ไม่ค่อยทะ เลาะกัน
อาจมีแต่การส่งเสริมให้ทำบุญร่วมกันไปเสมอ ๆ บางคนจะเรียกว่าเป็นคู่ที่ “ศีลเสมอกัน” คือมีนิสัยที่คล้ายกันหลายอย่าง มีคุณธรรม มีเหตุมีผลเสมอกัน
มีความรักเป็นตัวนำพาความสัมพันธ์ ไม่ใช่ความใคร่ เรียกว่าเป็นคู่ที่ต่างก็ใช้ความเข้าใจและเหตุผลพูดคุยสื่อส า รกันค่ะ ใครมีคู่ที่ศีลเสมอกัน พากันไปในทางที่ดี เข้าอกเข้าใจกัน รักษาคนคนนั้นไว้ให้ดี ๆ เลยทีเดียวเชียว!
4.คู่บุพเพสันนิวาส
ชื่อก็บ่งบอกถึงความโรแมนติกแล้ว สำหรับคู่บุพเพสันนิวาสนั้น จะเรียกว่าเป็นคู่แท้กันเลยก็ว่าได้ เพราะจะมีเหตุที่ทำให้รู้สึกรักอีกคนขึ้น มาในทันทีตั้งแต่แรกเห็น
โดยที่นานวันความรักของคนคู่นี้ก็จะยิ่งก่อตัวแน่นแฟ้นขึ้น แต่ต้องระวังเหมือนกันค่ะว่าอาจจะเป็นคู่เวรคู่กรรมก็ได้นะ
แบบอยู่ดี ๆ ในส่วนลึกก็รู้สึกรักหรือชอบขึ้น มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย อาจจะเป็นเรื่องที่หลายคนไม่เชื่อ แต่ว่าคู่ในลักษณะนี้นั้น มีอยู่จริง
เรียกว่าเป็นคู่แท้ที่ฟ้าส่งให้มาแมชท์กันยังไงยังงั้น เหตุเพราะในอดีตก็เคยได้อยู่ร่วมกัน ครองคู่กัน มาตลอดนั่นเองค่ะ
5.คู่มิตร
หากเรามีเพื่อนสนิทสักคนที่รู้จักมักคุ้นกัน มานานจนรู้ใจกัน ก็อาจเรียกว่า “คู่มิตร” ได้เช่นกัน เพราะคู่ในลักษณะนี้จะมีความเข้าอกเข้าใจกัน
ช่วยเหลือแบ่งปันกันในยามทุกข์ยาก เป็นคู่ที่เหมือนจะมีความเป็นผู้ใหญ่สูง อาจจะใช้ชีวิตหรือปฏิบัติต่อกันและกันแบบเพื่อน
เรียกว่ามีแฟนที่คบเหมือนเป็นเพื่อนกันค่ะ แบบนี้ก็ดีอีกแบบตรงที่เราจะสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ เสมือนว่าเรามีทั้งคนรักและเพื่อนที่คอยรับฟังคำปรึกษาของเราได้ในเวลาเดียวกัน
เราก็ทราบถึงลักษณะคู่ที่เป็นไปในทางดีและส่งเสริมกันไปแล้ว คน มีคู่ตอนนี้ ลองสังเกตตัวเองดี ๆ ค่ะว่าคนที่กำลังคบอยู่นั่นเป็นคู่แบบไหนกัน?
แต่เหรียญนั้น มี 2 ด้านเสมอ ไม่มีทุกอย่างที่เพอร์เฟค สมบูรณ์แบบ มีดีแล้วก็ต้องมีเสีย คราวนี้มาดูกันสำหรับลักษณะคู่ครองที่พึงระวังไว้ค่ะ สังเกตุให้ดีละกัน!
6.คู่เวรคู่กรรม
ชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้วค่ะว่าคงจะไม่ใช่เรื่องที่ดี แปลความห ม ายตรงตัวก็คือเป็นคู่ที่ต่างคนต่างมีเวรกรรมที่เคยกระทำมาร่วมกัน
ทำให้ได้กลับมาพบพานกันอีก โดยที่การพบพานนั้นอาจทำให้ต่างรู้สึกรักมากตั้งแต่ในช่วงแรก แต่การครองรักนั้นก็มีอุปสรรค ปัญหา ความอึมครึมต่อกันเสมอ
ส่วน มากแล้วคนที่เป็นคู่เวรคู่กรรมกันจะนี้จะเลิกรากันยาก แม้จะมีความรู้สึกอึดอัดต่อกันขนาดไหนก็ตาม
อาจจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่แม้จะโดนทำร้ า ยจิตใจขนาดไหน ก็ยังเลิกรักอีกฝ่ายไม่ได้ (ออกแนวจำเลยรักยังไงยังงั้น)
นอกจากจะหมดเวรหมดกรรมต่อกันไปเท่านั้นถึงจะขาดจากกันได้ หรือไม่หากยังรักกันและแน่วแน่ว่าจะอยู่ด้วยกันจริง ๆ แนะนำว่าให้หมั่นไปทำบุญทำกุศลร่วมกันบ่อย ๆ ค่ะ
ผลบุญจะช่วยหนุนนำให้คนสองคนกลายเป็นคู่แท้กันได้ในที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทำบุญอย่างเดียวก็ไม่พอค่ะ
ต้องใช้ความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญด้วย คือเข้าใจตัวเราเองและคู่ของเรา มีสติรู้ตัวกันตลอดว่าจะปฏิบัติต่อกันยังไงนะคะ
7.คู่ศั ต รู
จัดเป็นคู่ลักษณะสุดท้าย ที่ดูก็รู้ว่าเป็นประเภทขิงก็รา ข่าก็แรง ชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้วว่า “คู่ศั ต รู” คือคู่ที่ไม่ลงรอยกันเอาซะเลย อาจมีเรื่องให้ทะ เลาะ ไม่เข้าใจกัน
ไปจนถึงอาจไม่มีใครยอมใคร แม้ว่าจะรักกัน มากขนาดไหนก็ตาม มีความเชื่อกันว่าคู่ในลักษณะนี้ต่างคนต่างเคยมีความขัดแย้งต่อกัน มาก่อน
เวลาคบกันหรืออยู่ด้วยกันแล้วจึงไม่เป็นสุข มีเรื่องให้ต้องทะ เลาะเบาะแว้งกันตลอด ซ้ำร้ า ยที่สุดถ้าขัดแย้งกันเยอะ ๆ จนบานปลาย ทั้งสองคนอาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อกันในอนาคตได้เลยทีเดียว