จงฝึกให้มีวินัยจากนั้นก็ลงมือทำ น้อยมากมันไม่ใช่ประเด็ น ไม่มีคำว่าสายสำหรับการลงมือทำ เพราะการลงมือทำ
ขอแค่อย่าคิดติดลบ ตัดกำลังใจตัวเองก็พอ อย่าคิดว่าตัวเองเงินเดือนก็น้อย หนี้ก็เยอะ
ทำงานทั้งเดือนแทบไม่พอใช้ จะเอาที่ไหน มาเก็บ คุณจงเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ซะ
คุณอย่าปล่อยให้อุปสรรคพวกนี้ มาเป็นตัวขั ดขวางความมั่งคั่งคุณ ไม่ต้องกลัวว่า เงินเดือนน้อย
หนี้เยอะ เพราะทุกปัญหามีทางออ กเสมอ คุณก็ทำได้ ถ้าคุณตั้งใจ
1.หาร ายได้เพิ่ม
หากร ายได้น้อยไม่ค่อยพอ กับค่าใช้จ่ายที่มี ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาร ายได้เสริม
ให้มีเงิน มากขึ้นโดยอาจจะเริ่ม จากงานเสริมพาร์ตไทม์ ช่วงเย็นหลังเลิกงานก็ได้
ถ้ามีความรู้พิเศษ เฉพาะทางก็สามารถรับงานฟรีแล นซ์มาทำได้ มันจะช่วยให้ในแต่ละเดือน ไม่ลำบากมาก
2.ปรับตาราง การใช้เงิน ใช้จ่ายให้เห ມ าะสม
ฉะนั้นเราต้องสำรว จรายรับรายจ่ายในแต่ละเดือนด้วย เพื่อให้รู้สถานะทางการเงินที่แท้จริง
เพราะจะได้วางแผน ใช้เงิน ออมเงินได้ถูก เพราะมีหลายคนที่ออมเงินไม่ตรงกับสไตล์การใช้ชีวิต
ทำให้เสียเงินไปกับเรื่องไม่จำเป็น เช่น บอ กว่าให้ออมเงิน 10 % ของเงินเดือน ซึ่งหากคุณมีเงินเดือน
ประมาณ 1.5 หมื่น แต่หนี้เกินกว่า 40 % ของเงินเดือน คือ 6,000 นั่นเท่ากับเหลือเงินใช้ 9,000
ซึ่งที่เหลือคุณต้องจ่ายให้กับค่าใช้จ่ายประจำของแต่ละเดือน อย่างค่าบ้าน 3,000
ค่าโทรศั พท์ 600 บาท ค่าน้ำ ค่าไฟ 800 ส่งให้ครอบครัว 2,000 รวมๆ แล้วคุณเหลือเงินใช้ทั้งเดือนก็แค่
2,600 บาท ซึ่งมันน้อยมากๆ เมื่อต้องหั กเงินออม 10 % ของเงินเดือน ก่อนที่จะใช้จ่ายอย่างอื่น
ก็เท่ากับว่า เงินในแต่ละเดือนติดลบ ไม่พอใช้แน่ๆ และอาจจะตามมาด้วย การเริ่มต้นเป็นหนี้
ดังนั้น ตร วจสอบสถานะ ทางการเงินของตัวเองให้ดี ก่อนเริ่มออมเงินเพื่อจะได้หาวิธี ที่เห ມ าะสมที่เห ມ าะกับเรา
ค่อยๆ ขยับ ออมไม่ถึง 10 % ในตอนแรกๆ หากปรับตัวได้ ก็ลดค่าใช้จ่ายตรงอื่น แล้วจึงค่อยเพิ่มปริมาณเรื่อยๆ ไปนะ
3.เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ สำหรับการใช้เงิน
หากเรารู้สถานะทางการเงินตัวเองแล้ว และรู้พฤติกร ร มของตัวเองด้วย เช่นกัน ว่ามีอะไรที่เป็นอุปสรรค
สำหรับการออมเงิน เช่น ชอบใช้เงินเกินตัวจนเป็นสาเหตุ ที่ทำให้มีหนี้ มีนิสัยชอบสร้างหนี้
ชอบใช้ของเกินฐานะ เหล่านี้ มันจะต้องแก้ไขโดยด่ วนตั ดทอนการใช้จ่ายบางอย่างที่ไม่จำเป็นออ กไป
4.เริ่มเก็บเงิน จากจุดเล็กๆ ที่มี0
เพราะช่วงเริ่มต้น ที่เงินเดือนไม่มาก ยังมีหนี้มากมาย อาจจะต้องเริ่มเก็บ เงินจากสิ่งเล็กๆ ก่อน
เช่นเงินเหรียญที่เหลือ จากค่าใช้จ่ายของวันนั้นๆ หยอดใส่กระปุกออมสิน
ไว้ในทุกๆ วันหรือเก็บ เศษของเงินเดือน เช่น เงินเดือน 15,640 บาท ให้เก็บเอาไว้ 640 บาท
มันจะได้ไม่ทำให้คุณต้อง ลำบากมากนักไง
5.ตั้งเป้าไว้ สำหรับเงินออม
เราควรให้สัญญากับตัวเองไว้ใน 1 ปี จะต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่บ้าง
เพื่อที่จะได้มีแร งจูงใจในการเก็บ โดยอาจจะทำเป็นสมุด จดบันทึกให้เห็นพัฒนาการ
ของจำนวนเงินเก็บในแต่ละวันด้วยก็ดี ทำไปเรื่อยๆ ก็จะติดนิสัย รักการออมเองนั่นแหละ
6.ในแต่ละวัน แบ่ งเงินใช้ให้พอดี
เช่นวันละ 350 บาทงี้ เพราะเราเองไม่ควรพกเงินติดตัวทีละเยอะๆ แต่ละวันหยิบ เงิน มาใช้
ให้มันพอดีแค่นั้น เพื่อบังคับให้ใช้เงิน เท่าที่จำเป็น และในจำนวนเงินที่มีอยู่
หลายคนเวลาเข้าร้านสะด วกซื้ อ เพราะตั้งใจซื้ อแค่อย่างเดียวเท่านั้น
แต่พอได้เข้าไป ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบของชิ้นอื่นๆ มาด้วย ฉะนั้น หยิบเงินไปแค่พอซื้ อ มันจะได้ไม่เปลือง
7.จัดการหนี้สิน ให้เป็นระบบทุกอย่าง
อุปสรรคที่สำคัญเลย ของความมั่งคั่งนั่นคือหนี้สิน ฉะนั้นเราจึงต้องจัดการกับปัญหา หนี้สินเหล่านี้
ให้เป็นระบบก่อน และกั ดฟั นใช้หนี้จำนวนน้อยๆ ก่อน จะได้ลดภาระหนี้ในเดือนต่อไปให้น้อยลง
โดยเริ่มจากเมื่อได้เงินก้อนใหญ่ เช่น โบนัส ให้นำมาปิดหนี้สิน ที่มียอดน้อยๆ ก่อน
ส่วนหนี้ที่มียอดสูงๆ ก็จ่ายเพียงขั้นต่ำไปก่อนละกัน เพื่อประคองเอาไว้
เมื่อไหร่หนี้สินก้อนเล็กๆ หมดไป ก็จะทำให้เหลือเงินในแต่ละเดือน
เยอะขึ้น และค่อยทยอยจ่ายต่อไปเรื่อยๆ ให้จนหมด