การมีรายได้สูง ๆ ไม่ได้ทำให้เรารวยขึ้นได้ แต่ความร่ำรวย จะเกิดก็ต่อเมื่อเราสามารถบริหารการใช้เงินให้เหลือเก็บนั่นต่างหาก ดังนั้น หากตอนนี้คุณรู้สึกว่าเก็บเงินไม่ค่อยอยู่เลย
1. รายได้เพิ่มขึ้น แต่เงินเก็บไม่เพิ่มตาม หลายคนคิดไว้แล้วว่าเมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้นก็จะเก็บเงินให้มากขึ้นด้วย
ทว่าเอาเข้าจริง ๆ กลับยังคงใช้เงินแบบเดิม ๆ เก็บเงินได้บ้าง พลาดบ้าง แล้วแต่กิเลสในแต่ละเดือนของตัวเอง
รู้ตัวอีกทีเงินเก็บที่คิดว่าจะมีเยอะก็กลับไม่เท่าที่หวังไว้
วิธีแก้ปัญหา อย่ารอให้มีรายได้เพิ่มขึ้นถึงเริ่มเก็บเงิน โดยเฉพาะหากรู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนใช้เงินเก่ง
ควรตัดใจหักเงินส่วนหนึ่งเอาไว้ออมเลย แล้วค่อยมาบริหารจัดการเงินที่เหลือไว้ใช้จ่ายภายหลัง
2. มีเงินไม่พอจะจ่ายหนี้ เป็นอย่างนี้แทบทุกเดือน นอ กจากจะมีชีวิตแบบสิ้นเดือนสะเทือนใจ
แล้วพอมีรายได้เข้ามาคุณมักจะพบว่าไม่สามารถจ่ายบิลค่าใช้จ่ายได้ทั้งหมดหรือจ่ายได้แค่เพียงขั้นต่ำ
และนี่ก็เป็นปัญหาหนักอ กประจำ เ ดื อ น มายาวนานแล้วอีกต่างหากซึ่งก็เห็นได้ชัดเลยนะคะ
ว่าคุณไม่มีเงินสำรองเพียงพอจะจัดการรายจ่ายของตัวเองให้ลงตัวได้
วิธีแก้ปัญหา บอ กตรง ๆ ว่ามีตัวเลือ กอยู่แค่ 2 ทาง คือ หาเงินให้ได้มากขึ้น หรือใช้จ่ายให้น้อยลง
ซึ่งอาจหารายได้เสริมทำในช่วงเลิกงานหรือวันหยุดไม่ก็พยายามรัดเข็มขัดตัวเองตัดรายจ่ายฟุ่มเฟือยออ กไป
หรือง่าย ๆ เริ่มต้นจากจดบันทึกรายรับ-รายจ่าย ประจำวันก่อนก็ได้
3. ไม่เคยเตรียมพร้อมกับรายจ่ายก้อนใหญ่ โดยเฉพาะคนที่แต่งงานแล้ว
อย่าลืมว่าในอนาคตคุณอาจมีสมาชิกครอบครัวเพิ่มขึ้นอีกนะ
แล้วการเลี้ยงดูเด็กสักคนก็ต้องใช้ค่าใช้จ่ายไม่เบาเลยล่ะ หรือแม้แต่คนโสดก็ต้องเตรียมตัวไว้เหมือนกัน
ปัญหา สุ ข ภ า พ ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรวางใจ เ จ็ บ ป่ ว ย ขึ้น มาเมื่อไรค่าใช้จ่ายก็ไม่น้อยเลยทีเดียว
วิธีแก้ปัญหา ยังคงต้องบอ กให้แบ่งเงินบางส่วน มาเก็บออมเอาไว้ก่อน ถึงแม้จะเป็นเงินก้อน
ที่ดูไม่น่าจะได้ใช้เร็ว ๆ นี้แต่การออมเงินไว้ก็ยังทำให้อุ่นใจได้มากจริงไหมคะ
หรือใครอยากออมเงินไปพร้อมกับทำหลักประกันชีวิตก็ได้ เ จ็ บ ป่ ว ย ขึ้น มาก็ยังมีค่า รั ก ษ า พร้อมจ่าย
4. ไม่เคยนึกถึงเรื่องเก็บเงินวัยเกษียณ ในตอนนี้ เราอาจอายุยังน้อย มีเวลาหาเงินได้อีกหลายปีก็จริง
แต่ถ้าเรามัวผัดวันประกันพรุ่ง แล้วเมื่อไรเราจะมีเงินเก็บในส่วนที่กันไว้ใช้ ช่วงวัยเกษียณกันล่ะ
วิธีแก้ปัญหา เริ่มออมเงินส่วนนั้นไว้ตั้งแต่ตอนนี้ อย่างน้อยหัก 10 % ของรายได้เอามาออมเงิน
ไว้ใช้ตอนเกษียณก็ได้แค่นี้อนาคตก็เป็นเรื่องที่ไม่น่ากังวลใจอีกต่อไป
5. จ่ายหนักกับค่าที่พักอาศัย อสังหาริมทรัพย์ถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน
เตือนว่าถ้าคุณมีรายจ่ายค่าบ้าน ค่าคอนโดหรือหอพักเกิน 40 % ของรายได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเหลือเงินเก็บน้อย
วิธีแก้ปัญหา ถ้ามีความสามารถหารายได้เพิ่มในแต่ละเดือนได้ ก็อย่ามัวรีรอค่ะ จัดไปให้สมดุลกับรายจ่ายของตัวเอง
แต่หากใครที่ไม่โอเคกับทางเลือ กแรก ลองมองหาที่พักอาศัยที่เห ม าะสมกับรายรับของตัวเองดีกว่าไหม
โดยเฉพาะคนที่เช่าอาศัยอยู่ ลองตัดความไม่จำเป็นออ ก แล้วหาที่พักใหม่ที่ถูกลง ทำให้เรามีเงินเหลือเก็บได้มากขึ้น
6. ไม่สนเรื่องการลงทุน บางคนกลัวว่าการลงทุนอาจจะมีความ เ สี่ ย ง เลยยังไม่กล้าลงทุนทำอะไรสักอย่าง
แต่ก็มองได้อีกมุมนะคะว่า หากเราไม่ เ สี่ ย ง ลงทุนไปบ้าง ชีวิตก็คงไม่ได้กำไรสักบาทเช่นกัน
ดังนั้น ลองมองหาการลงทุนที่คุณคิดว่าน่าสนใจได้แล้ว
วิธีแก้ปัญหา พาตัวเองออ กจากความกลัว ความไม่กล้า หรืออะไรก็ตามที่ทำให้คุณมัวกั๊ก ไม่ยอมลงทุนสักที
แล้วมองหาการลงทุนที่คิดว่าใช่ ไม่ว่าจะลองลงทุนกับกองทุนต่าง ๆ ซึ่งอาจจะช่วยลดภาษีตอนสิ้นปีได้ด้วย
7. หนี้บัตรเครดิตเยอะและมักจะจ่ายได้แค่ขั้นต่ำ บัตรเครดิตที่มีอยู่ทุกใบ ถูกรูดใช้ในวงเงินที่เกินจะเคลียร์หนี้ได้หมด
และมักจะชำระหนี้ได้เพียงแค่ขั้นต่ำ ซึ่งก็ทำให้หนี้บัตรเครดิตทบต้นทบดอ กไปเรื่อย ๆ
และคุณก็ต้องนำเงินส่วนที่น่าจะได้เก็บออมไปจ่ายหนี้แทน ทำให้โอ กาสเก็บเงินแทบจะไม่มีเลยทีเดียว
วิธีแก้ปัญหา พยายามใช้จ่ายอย่างประหยัดและเร่งเคลียร์หนี้สินจากบัตรเครดิตให้หมดโดยเร็วที่สุด
ที่สำคัญต้องหักห้ามใจไม่ให้ใช้บัตรเครดิตที่ยังคงมียอดหนี้ค้างไว้อยู่ แต่ให้ใช้จ่ายด้วยเงินสดแทน
8. ใช้เงินฟุ่มเฟือย เดือน ๆ หนึ่งช้อปปิ้งบ่อยมาก กาแฟก็ดื่มทุกวัน
แฮงก์เอาท์นี่แทบเป็นงานประจำเลย ก็ว่าได้แบบนี้จะเหลือเงินที่ไหน มาเก็บกันล่ะจ๊ะ
วิธีแก้ปัญหา เข้าใจว่าถ้าหักดิบให้เลิกฟุ่มเฟือยเลยคงทำได้ยาก แต่คุณทำได้แน่ค่ะ เพียงจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายของตัวเองทุกวันหรือจะใช้วิธีจำกัด งบประมาณใช้จ่ายในแต่ละวันก็ได้
ทว่าก็ต้องมีวินัยในตัวเองด้วยนะ ห้ามนอ กลู่นอ กทางเด็ดขาด ยอมรับไหมละคะว่า การที่เราไม่มีเงินเก็บอย่างที่ ควรจะมี ก็เป็นเพราะนิสัยการใช้จ่ายที่ไม่ได้วางแผนไปถึงอนาคต
รวมทั้งการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยที่เรายอมควักระเป๋า จ่ายออ กไปแทบทุกวัน ซึ่งหากตัดรายจ่ายไม่จำเป็นเหล่านี้ทิ้งได้พร้อมกับปรับนิสัยใช้เงินอย่างคุ้มค่ามากขึ้น
อีกไม่นานก็คงมีเงินเก็บเป็นถุงเป็นถังได้เหมือนคนอื่นเขาแล้วล่ะ