12 วิธีในการบริหารเงิน มีเก็บ มีกินถึงสิ้นเดือน

เงิน สิ่งสำคัญล้ำค่า ที่กว่าจะหามาได้แต่ละบาทก็เหนื่อย กันแทบขาดใจ แต่กลับร่อยหรอไปได้อย่างรวดเร็ว ราวกับน้ำซึมลงในทราย บางคนได้รับเงินเดือน มาไม่กี่วันก็หมด

แทบจะต้องต้ม ม า ม่ า กินกันไปทั้งเดือนก็ยังมีนั่นก็เพราะการจัดสรรเงิน ที่ไม่ถูกต้องและการใช้เงินอย่างขาดการวางแผนที่ดี

ปัญหาเหล่านี้ต้องยอมรับว่าเกิดขึ้นเพราะตัวเราเองทั้งนั้น แต่ก็ใช่ว่า จะไม่สามารถแก้ไขได้ การรัดเข็มขัดและการกินอยู่อย่างประหยัดเป็นวิธีที่จะช่วยให้ตัวเลขที่ติดลบต่อเดือน หายไปได้ด้วยวินัยการเงินที่เคร่งครัด

1. เศษเหรียญมีค่าต้องใช้ให้คุ้ม

ยอมรับมาซะดี ๆ เถอะว่าต้องมีหลาย ๆ คนไม่ชอบ การพกเหรียญ ให้หนักกระเป๋า แต่อย่าลืมนะว่าเหรียญเหล่านั้นก็คือเงินเหมือนกัน ดังนั้นอย่าปล่อยเหรียญทิ้งไว้

โดยไม่ได้ใช้ค่ะเหรียญทุกเหรียญมีค่า ไม่ว่าจะเหรียญบาท เหรียญสลึง ถ้าไม่อยากหนักกระเป๋า ก็แค่นำไปแลกที่ธนาคาร แค่นี้ก็ได้ธนบัตรออ กมาใช้สบายใจแล้ว

2. ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย

วิธีการประหยัดเงินสุดคลาสสิกที่ได้ผลเสมอ การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เป็นวิธีที่จะทำให้เรารู้ว่าในแต่ละเดือนเรา ได้รับเงิน มาเท่าไร

และจ่ายเงินไปเท่าไรมีค่าใช้จ่ายใดที่เกินความจำเป็นบ้าง นอ กจากจะช่วยเพลา ๆ การใช้เงินของเราลงได้แล้ว ยังสามารถช่วยให้เราประมาณ

การใช้เงินของเราในเดือนถัดไปได้อีกด้วย ได้ประโยชน์หลายต่ออย่างนี้ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมวิธีประหยัดเงินนี้จึงได้รับความนิยมที่สุด

3. งดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

ค่ากาแฟ ขน ม หรือเสื้อผ้าที่ซื้อ มาแต่ไม่มีทางได้ใส่ ค่าใช้จ่ายพวกนี้ เป็นความฟุ่มเฟือยที่ควรจะตัดทิ้งอย่างยิ่ง ลองคิดดูสิว่าวัน ๆ หนึ่ง

คุณดื่มกาแฟแก้วละ 50 บาท รวมทั้งเดือนจะเป็นเท่าไรแล้ว เราต้องเสียเงินไปเท่าไร หรือโดยเฉพาะคุณผญ.ที่ชอบช้อปปิ้งเป็นชีวิตจิตใจหันกลับมาดูสิว่าสิ่งที่คุณซื้อมาจำเป็นหรือเปล่า

คุ้มค่าหรือไม่ หรือแค่เพียงสนองความต้องการของตัวเองเท่านั้น แม้นั่นจะเป็นความสุข ที่คุณได้รับจากการซื้อของที่ถูกใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังไงการมีเงินเหลือใช้มากขึ้นก็ดีกว่าใช่ไหมล่ะ

4. อย่าอายกับการซื้อของลดราคา

ป้ายลดราคาคือสวรรค์ ของใครหลาย ๆ คน แต่สำหรับบางคน ก็ยังแอบรู้สึกอายที่ต้องไปซื้อของลดราคา ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วเป็นวิธีการประหยัดเงินที่ดีอย่างหนึ่ง

แต่ก็ไม่ใช่ว่าเห็นป้ายลดราคาแล้วจะพุ่ง เข้าใส่อย่างเดียวนะ ตั้งสติและซื้อเฉพาะของที่จำเป็นเท่านั้น ถ้าทำได้ก็ลดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยเชียวล่ะ

5. เลือ กซื้อของที่คุณภาพไม่ใช่ราคา

บางคนอาจจะคิดว่าการเลือ กซื้อ ของที่ราคาถูกกว่าและคุณภาพน้อยลงหน่อยน่าจะช่วยเซฟเงินได้บ้าง แต่ถ้ามาเทียบกันจริง ๆ แล้ว การซื้อของที่มีคุณภาพดีแต่ราคาเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย

ย่อมคุ้มค่ากว่านะไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือของใช้ต่าง ๆ เมื่อมีคุณภาพที่ดีกว่า ย่อมมีอายุการใช้งาน ที่นานกว่าอยู่แล้ว ฉะนั้นแทนที่จะมองเรื่องราคา หัน มามองที่คุณภาพจะดีกว่า

จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังหากของใช้ที่ซื้อมาเกิดพังแล้วค่าซ่อมแซมแพงกว่าตอนที่ซื้อมา

6. ต่อราคาบ้างก็ได้

รู้หรือไม่ว่าแม่ค้าบางร้านก็ตั้งราคาเผื่อ ต่อให้กับลูกค้า เอาไว้แล้ว ของบางชิ้นที่เราเห็นว่าแพงที่จริงแล้วอาจจะลดราคาลงได้อีกยิ่งถ้าหากเป็นแม่ค้าบางคนที่กล้าได้กล้าเสีย

ยอมลดราคาให้คุณแบบ แทบไม่เอากำไรด้วยละก็ ถ้าไม่ลองต่อราคาสักหน่อยแล้วจะเสียดายนะจะบอ กให้

7. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารนอ กบ้าน

การรับประทานอาหารนอ กบ้าน ถึงจะสะดวก แต่ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงไม่เบา เพราะนอ กจากราคาอาหารแล้ว ร้านอาหารก็ต้องบวกค่าภาษี บวกค่าบริการ บวกค่าแก๊ส ค่าแอร์ในร้าน โอ๊ย…อีกส า รพัดอย่างที่นึกได้

แล้วเราจะยอมเสียค่าใช้จ่ายเหล่านั้นไปทำไม ในเมื่อเราสามารถ เก็บออมส่วนนั้นไว้ได้ ลองห่อข้าวกล่องไปรับประทานตอนกลางวัน หรือรีบกลับบ้าน มารับประทานอาหารเย็น ที่บ้านทุกวันดูสิ รับรองว่าเหลือเงินเก็บมากขึ้นแบบเห็น ๆ

8. จำกัดการใช้เงินของตัวเองในแต่ละวัน

อาจจะเป็นวิธีที่เคร่งครัดไปนิด แต่ก็เป็นการฝึกวินัย การใช้เงินที่ดี กำหนดไปเลยว่าเราต้อง จะใช้วันละเท่าไร โดยในเงินจำนวนนั้นอาจจะรวมค่าเดินทาง ค่าอาหารและอาจจะพอให้มีเหลือ กินขน มน มเนยอีกนิด

แบ่งเงินที่ต้องใช้ในแต่ละวันใส่ถุงหรือใส่ซองเอาไว้ หยิบไปวันละซอง และไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามใช้ เกินกว่านี้ ถ้าทำติดต่อ กันได้สัก 1 เดือน นิสัยในการใช้เงินของคุณเปลี่ยนแน่นอน

9. เช็пราคาก่อนซื้อ

สิ่งของที่เราคิดว่าซื้อมาในราคาย่อมเยา บางครั้งอาจจะแพงกว่า บางที่โดยที่ไม่รู้ตัว ฉะนั้นถ้าไม่อยากจะเสียส่วนต่างของราคาไปง่าย ๆ ควรเช็пราคาให้ดีก่อนที่จะซื้อ

โดยเลือ กที่ดูแล้วการซื้อครั้งนั้น จะคุ้มค่าที่สุด แม้ว่าอาจจะไม่ถูกที่สุด แต่ถ้าหากเมื่อ เทียบกับค่าเดินทาง หรือค่าขนส่งแล้วประหยัดได้มากกว่าก็เลือ กซื้ออันนั้นเลย ที่สำคัญ อย่าลืมดูที่คุณภาพด้วยนะ

10. ทำอาหารรับประทานเองสิ

สำหรับคนที่พอจะมีฝีมือ ปลายจวักอยู่บ้าง การทำอาหารรับประทานเอง ก็เป็นความคิดที่ดี นอ กจากเราจะได้รสชาติอาหารที่ถูกปากเราแล้ว ก็ยังสามารถเลือ กวัตถุดิบดี ๆ มาปรุงอาหาร แถมยังไงก็ถูกกว่าการไปซื้ออาหารสำเร็จรูปรับประทานข้างนอ กแน่ ๆ

แต่ถ้าใครทำอาหารไม่เป็นจะลองฝึกทำก็ถือ เป็นการเพิ่มพูน ทักษะไปในตัว นอ กเสียจากว่าคุณเป็นคนที่ไม่ถนัดทำอาหารจริง ๆ ทำแล้วต้องเททิ้งตลอด แบบนี้อย่าทำเองเลยดีกว่า เดี๋ยวจะพาลทำให้เสียของเสียเงินยิ่งกว่าเดิม

11. ปลูกผักสวนครัวไว้ข้างบ้านก็ดีนะ

ข้อดีของการอยู่ในบ้านที่มีบริเวณ ก็คือสามารถปลูกผักสวนครัว เอาไว้รับประทานเองได้ ไม่จำเป็นต้องปลูกทุกอย่างที่คุณกิน เลือ กปลูกในสิ่งที่คิดว่าคุณ จะต้องได้ใช้อยู่บ่อย ๆ เช่น ใบกะเพรา พริก ใบมะกรูด มะนาว โหระพา หรือผักที่ปลูกง่ายไม่ต้องดูแลเอาใจใส่มาก

แต่ถ้าใครอยู่คอนโดหรือหอพักก็ไม่ต้องเสียใจไปเดี๋ยวนี้มีวิธีสอน การปลูกผักแบบคอนโด ให้ได้ลองไปทำตามอีกเพียบ ลองนำไปใช้ดู รับรองว่าลดค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารการกินลงได้แถมถ้าเหลือจากการเก็บไปรับประทานจะนำไปขายก็ได้รายได้เสริมอีกด้วยนะ

12. แบ่งเงินออมทันทีหลังได้รับเงินเดือน

แม้จะไม่ใช่การใช้เงินอย่างประหยัดโดยตรง เสียทีเดียว แต่ก็เป็นวิธีที่ช่วยให้เราออมเงินได้ ไม่ต้องแบ่งเก็บคราวละมาก ๆ ออมเงินในปริมาณที่เราสามารถทำได้โดยที่ไม่กระทบ ค่าใช้จ่ายของตนเองมากนัก

โดยอย่างน้อยก็ควรจะแบ่งไว้ออมประมาณ 5-10% ของเงินที่ได้รับในแต่ละเดือน ซึ่งเงินก้อนนี้หากคุณไม่ตบะแตก หยิบออ กมาใช้เสียก่อนก็จะกลายเป็นเงินเก็บที่คุณภาคภูมิใจในอนาคต

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.